วันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2555

บริษัทไทยเบฟเวอเรจ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ TMAC


อีกครั้งหนึ่งที่  TMAC (Thailand Mine Action Center) ได้มีโอกาสต้อนรับ อาจารย์ ฤกษ์  วรจิต

คุณภาณุวัฒน์  ทัศนนิพนธ์  รวมถึงคณะติดตามอีก 2 ท่าน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ 

ในการนี้  พลโท สีหนาท  วงศาโรจน์ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิด  ให้การต้อนรับ

พันเอก นิพนธ์  มณีใส ผู้ช่วยหัวหน้าศูนย์ฯ เป็นวิทยากรพิเศษ นำคณะเยี่ยมชมพร้อมบรรยาย

พลโท สีหนาท  วงศาโรจน์ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ
ให้การต้อนรับคณะเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์การียนรู้

พันเอกนิพนธ์  มณีใส ผู้ช่วยหัวศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิด
ทำหน้าที่วิทยากรพิเศษ บรรยายให้ความรู้แก่คณะ

จากซ้ายไปขวา  :  พันเอก ดำรง หนูซื่อตรง หัวหน้าส่งกำลัง ฯ
พันเอก กิติพงษ์  จุลพงษ์  รองหัวหน้าส่วนประสานการปฏิบัติและประเมินผล
พันจ่าอากาศเอกหญิง อัครารักษ์  ธรานิศร เสมียน ส่วนประสานฯ
สิบเอก อนุวัตร  ชัยชนะ
กำลังแสดงเครื่องมือและสาธิตการทำงานของเครื่องตรวจโลหะ

อาจารย์ ฤกษ์  วรจิต จากบริษัทไทยเบฟเวอเรจ
พันเอก นิพนธ์  มณีใส อธิบายเครื่องมือตรวจโลหะ
เรืออากาศโทหญิง อังคณา  ภิรมย์  หัวหน้าแจ้งเตือนให้ความรู้ ร่วมให้การต้อนรับ


วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ป้ายแจ้งเตือน



เมื่อเห็นป้ายแจ้งเตือนจากทางราชการเหมือนเช่นในภาพ


เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน อย่าประมาทนะคะ

ด้วยสาเหตุเพราะว่า ทุ่นระเบิดมันไม่รู้จักเจ้าของ ไม่มีวันหมดอายุุ

ทุ่นระเบิดพร้อมที่จะทำงานได้ทุกเวลา ทุกโอกาส ทุกสถานที่

เมื่อเจอ  อย่าจับ  รีบแจ้ง หน่วยทหารที่อยู่ใกล้เคียงที่สุด















ที่มาของภาพ : หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 2

วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ความผิดของเครื่อง GPS


          GPSเป็นเครื่องมือนำทางที่ทันสมัยและถูกต้องแม่นยำที่สุดในสมัยนี้เพราะเป็น เครื่องมือ[T1]  ที่ใช้ระบบดาวเทียมเป็นตัวชี้จุดหมายและการไปราชการที่สระแก้วครั้งนี้ท่าน พ.อ. สุชาต จันทรวงศ์ หน.ส่วนประสานฯ ก็ได้กรุณาให้ยืมGPSนำทางซึ่งเป็นของส่วนตัวของท่านให้ใช้ติดหน้ารถเพื่อให้ง่ายในการเดินทาง การเดินทางราบรื่น ถึงที่หมายโดยถูกต้องและแม่นยำ ไม่ว่าจะต้องการไปที่ไหนแห่งหนใด GPSนำทางเราไปได้ทุกที่แม้แต่ในป่าดงพงไพรไร้ซึ่งคลื่นโทรศัพท์มือถือ

           ตืดๆ ตืดๆ ตืดๆ...หลังจากออกจากอุทยานแห่งชาติตาพระยาได้ไม่นานก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือของอาจารย์....ดังขึ้น “ครับสวัสดีครับ...” เสียงอาจารย์รูปหล่อเสียงนุ่มแห่ง ร.ร.ทหารช่างรับสายโทรศัพท์ที่เงียบไปทั้งวันเพราะกลางป่าเขาไร้คลื่นความถี่  “แหม...ปิดเครื่องทั้งวันเลยนะคะ” เสียงสุภาพสตรีตัดพ้อต่อว่าดังลอดออกมาให้พอจะได้ยินทั้งคันรถ พวกเราก็เงียบเสียงคุยกันตามมารยาท (แต่ไม่ได้แอบฟังนะครับอาจารย์) “อ้อ...มาราชการที่จังหวัดสระแก้วนะจ้า มันไม่มีคลื่น เพิ่งออกจากป่ามา...เนี่ยออกมาปุ๊ปคุณก็โทรมาพอดี ไม่ได้ปิดเครื่องเลยจ้า” อาจารย์รีบตอบเหมือนจะกลัวถูกตำหนิมากไปกว่านี้

          อีกสองร้อยเมตรจะออกจากอุทยานแห่งชาติ ขณะที่อาจารย์กำลังคุยโทรศัพท์อย่างหวานแหว๋ว ทันใดนั้นเองGPSก็ได้แสดงความสามารถในการจดจำเส้นทางอย่างแม่นยำทันที “อีกสองร้อยเมตร ให้เลี้ยวขวาคะ อีกสองร้อยเมตรให้เลี้ยวขวาคะ” เฮ้อออออออออให้มันได้อย่างนี้ซิน่า บรรยากาศในรถเริ่มจะตรึงเครียดเพราะเสียงที่แว่วมาจากโทรศัพท์ที่กำลังหวานแหว๋วชักจะไม่หวานเสียแล้ว “ไหนบอกมาราชการคะ มาราชการหรือมาทำอะไรกันแน่ เสียงผู้หญิงแทรกมาซะหวานเชียว มิน่าละปิดเครื่องติดต่อไม่ได้ทั้งวัน บอกมาเดี๋ยวนี้นะ เสียงใคร” เอาละซิทีนี้คงงานเข้าแน่ๆละครับ “โธ่....มีผู้หญิงที่ไหนกันละจ๊ะ มาราชการจริงๆ”อาจารย์ รีบอธิบายด้วยเสียงออดอ้อนๆ “ยังมาแก้ตัวอีก ได้ยินเต็มสองรูหู คุณบอกมาเดี๋ยวนี้นะ “ เงียบ.....ไม่มีคำตอบจากอาจารย์ คงเป็นเพราะกำลังงงๆอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและนึกไม่ออกว่าภรรยาหูแว่วได้ยินเสียงผู้หญิงอะไรนั่นได้ยังไง “อ๋อออออไม่บอกใช่ไหม งั๊นก็แค่นี้แหละ กลับมาถึงบ้านค่อยเช็คบิล” เสียงงอนๆดังลอดออกมาพร้อมกับเสียง” ตุ๊ดๆๆๆๆ”สัญญาณโทรศัพท์ถูกตัด พร้อมกับสีหน้ามึนงงของอาจารย์  “อีกหนึ่งร้อยเมตรให้เลี้ยวขวาคะ อีกหนึ่งร้อยเมตรให้เลี้ยวขวาคะ” เสียงGPSดังเตือนอีกครั้ง ทำลายบรรยากาศอันเงียบงันภายในรถลงทันที

          “ ปั๊ดโธ๊...ฮาๆๆๆๆๆๆๆๆนึกออกละ ตะกี๊แฟนผมได้ยินเสียงผู้หญิงจากไหน เขาไม่ได้หูฝาด แต่เป็นเสียงจากไอ้เจ้า GPSนี่เอง” เสียงอาจารย์พูดเมื่อถึงบางอ้อ “GPSของหัวหน้าทำผมเสียแล้ว ..เฮ้อ หัวหน้าครับ ตั้งให้มันเป็นเสียงผู้ชายได้ไหมครับ หรือเสียงคนแก่อะไรก็ได้ ไม่ต้องเอาหวาน แบบนี้ผมกลับถึงบ้านคงมีหวังตายแน่ๆ”เสียงอาจารย์บ่นพึมพรำๆอย่างน่าเห็นใจ

           ทั้งหลายทั้งปวงมันเป็นความผิดของGPSตัวเดียวครับ คนไม่เกี่ยว ไงๆไปQCครั้งต่อไปขอตั้งเป็นเสียงผู้ชายหรือคนแก่จะได้ไหมครับหัวหน้า ผมละเห็นใจท่านอาจารย์จริงจริ๊งงานนี้ ไม่รู้ว่าจะโดนอะไรบ้างไหมน๊า ไม่อยากคิดเลยครับฮาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ




 [T1]

วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สุนัขที่ใช้การตรวจค้นทุ่นระเบิด

พันธุ์เยอรมันเชฟเฟิร์ด หรืออัลเซเซียล




อุปนิสัย   ไม่ก้าวร้าว  ตื่นตัวตลอดเวลา   กระฉับกระเฉง  ชอบเล่น  ใจดี/ฉลาด  สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี  

พันธุ์ลาบราดอร์




อุปนิสัย   จุดเด่นมีความฉลาด  คุณสมบัติในการตามกลิ่นได้เป็นเยี่ยม  ฝึกง่าย  ตื่นตัว  สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี  เป็นมิตรกับคนและสัตว์อื่น






วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เสื้อผ้าที่ทุกท่านปันน้ำใจสู้ภัยหนาว ถึงมือชาวบ้านแล้วครับ


เสื้อผ้าที่รับบริจาคได้นำไปสู่พี่น้อง อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย


ส่งมอบให้กับผู้แทนเพื่อส่งต่อผู้ประสบภัยหนาว

เริ่มทำการขนย้ายจาก ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร

ถึง อำเภอเวียงแก่น  จังหวัดเชียงราย


ชาวบ้าน อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย

วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Care for victim


ขอประชาสัมพันธ์ถึงผู้มีจิตศัทธาและมีความประสงค์จะบริจาคเสื้อผ้า เสื้อกันหนาว
เครื่องนุ่งห่ม รวมทั้งตุ๊กตา ของเล่น  อุปกรณ์เครื่องเขียน ของใช้ผู้ใหญ่ และ เด็ก 
ที่ผ่านการใช้แล้ว อยู่ในสภาพดี สามารถให้ความอบอุ่นและคลายหนาว ให้กับประชาชนที่อยู่ถิ่นห่างไกลที่กำลังได้รับอิทธิพลภัยหนาว

ส่วนประสานการปฏิบัติและประเมินผล  ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ขอเป็นผู้อาสานำพาเครื่องนุ่งห่มที่ได้รับการบริจาคครั้งนี้  ไปสู่พ่อแม่พี่น้องตามพื้นที่ต่าง ในวาระงานที่คณะกำลังจะเดินทางไปตรวจสอบและเมินผลในโอกาสถัดไป ประสานการปฏิบัติหรือบริจาคได้ที่

ส่วนประสานการปฏิบัติและประเมินผล
ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ
ถนนสรงประภา เขตดอนเมือง กรุงเทพ ฯ
โทรศัพท์         02-9292112 ในเวลาราชการ
หรือประสานโดยตรงที่  เรืออากาศโทหญิง อังคณา  ภิรมย์   081 - 855-1253

พันเอก สุชาต  จันทรวงศ์
หัวหน้าแผนกส่วนประสานการปฏิบัติและประเมินผล
รับมอบเสื้อผ้าจาก
เรืออากาศโทหญิง อังคณา ภิรมย์

พล.ท.สีหนาท  วงศาโรจน์ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ
 บริจาคเสื้อผ้ากันหนาวให้กับพี่น้องที่กำลังได้รับภัยหนาว

ส่วนหนึ่งของเสื้อได้รับบริจาค




วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับ การตรวจค้น การรื้อถอน และการทำลายทุ่นระเบิด


สวัสดีค่ะ วันนี้มีเรื่องน่าสนใจมานำเสนอสำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับ การตรวจค้น การรื้อถอน และการทำลายทุ่นระเบิด

มีข้อเท็จจริงที่สำคัญมีอยู่ 2 ประการ ที่บังคับให้ฝ่ายเราต้องจัดขบวนการต่อต้านโดยตรง

ประการที่ 1 :  เราต้องเผชิญกับฝ่ายข้าศึกซึ่งมีสมองใส ผู้เริ่มการใช้ทุ่นระเบิดต่อต้านฝ่ายเรา

ประการที่ 2 :  เกี่ยวกับความจริงที่น่าเกรงกลัวคือ การพัฒนาของทุ่นระเบิดและวิธีการเสียบชนวนไว้รุดหน้าก้าวไกลเกินกว่าวิธีการตรวจค้น และการรื้อถอนทุ่นระเบิดให้สิ้นเชิงของฝ่ายเรา การพัฒนาการของทุ่นระเบิดอโลหะขนาดเล็กเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยังต้องทำให้ฝ่ายเราต้องพิจารณาแก้ไขพิจารณาแก้ไขยุทธวิธีการรื้อถอน ข้าศึกรี้ลับของเราย่อมจะต้องมีทุ่นระเบิดชนิดนี้ใช้เหมือนกัน และได้เคยใช้ทุ่นระเบิดเหล่านี้อย่างกว้างขวางมาแล้วตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2

 วิธีการตรวจค้นหาตำบลที่วางทุ่นระเบิด

ก. วิธีการพิจารณาว่ามีทุ่นระเบิดที่วางไว้ เพื่อหวังผลในทางยุทธวิธี ณ ตำบลใดตำบลหนึ่ง หรือในพื้นที่ใดพื้นที่นั้น อาจจะใช้พิจารณาได้จาก

     1) การถูกทุ่นระเบิดโดยตรง

     2) การลาดตะเวนทางพื้นดิน

     3) การลาดตระเวนทางอากาศ

     4) การลาดตระเวนด้วยการยิง

     5) การตีความจากภาพถ่ายทางอากาศ

     6. การซักถามเชลยศึกและบุคคลอื่น ๆ

     7) การประเมินค่าจากการรายงานข่าวกรอง และจากแผนที่และเอกสารที่ยึดได้

ข. สิ่งบอกเหตุประการแรกของพื้นที่ทุ่นระเบิด อาจทราบได้โดยที่ทหารหรือยานพาหนะถูกทุ่นระเบิดทุ่นหนึ่งเข้า สิ่งบอกเหตุนี้จะเป็นจริงที่สุดโดยเฉพาะเมื่อมีการวางทุ่นระเบิดแบบกระจัดกระจาย หรือการวางทุ่นระเบิดรบกวน เพื่อให้การถูกทุ่นระเบิดโดยตรงลดน้อยลงแล้ว จะต้องใช้วิธีการอื่นในการพิจารณาถึงการมีอยู่ของทุ่นระเบิดในพื้นที่นั้น ก่อนที่หน่วยทหารฝ่ายเราจะเข้าไปในพื้นที่นั้น

ค. การพิจารณาพื้นที่ที่มีทุ่นระเบิดนั้น อาจกระทำได้โดยการลาดตระเวณด้วยการยิง , การลาดตระเวณด้วยสายตา, การตีความจากภาพถ่ายทางอากาศ, การซักถามบุคคลและการประเมินค่าจากแผนที่และจากเอกสาที่ยึดได้

     จากแหล่งการพิจารณาเหล่านี้ จะต้องมีการตรวจสอบด้วยการลาดตระเวนทางพื้นดิน การตรวจค้นทุ่นระเบิดแต่ละทุ่นด้วรลาดตระเวนทางพื้นดินร่วมกับการตรวจด้วยสายตา การตรวจค้นด้วยเหล็กตรวจค้น และการตรวจค้นด้วยวิธีอื่น ๆ นั้นเป็นการชักช้า แต่ก็เป็นวิธีเดียวเท่านั้นที่ใช้ได้สำหรับการตรวจตรวจหาพื้นที่ ๆ มีทุ่นระเบิดซึ่งสามารถกระทำในสภาพดินฟ้าอากาศทุกฃนิด

ง. การลาดตระเวณด้วยการยิง วิธีการอื่น ๆ ที่จะใช้ในการตรวจพื้นที่ ๆ มีทุ่นระเบิดนั้นคือ การลาดตระเวนด้วยการยิงของปืนใหญ่ เครื่องยิงลูกระเบิดหรือการยิงด้วยจรวดและการทิ้งระเบิด การระเบิดของกระสุนหรือลูกระเบิดหนึ่งลูกบนพื้นดินหรือใกล้กับพื้นดิน จะสังเกตได้จากหลุมระเบิดที่ลักษณะกลมและเรียบอยู่รอบ ๆ จุดยิงระเบิดของการยิงอาวุธ แต่อย่างไรควรระลึกไว้ว่าการยิงดังกล่าวนี้ อาจจะทำให้การรื้อถอนทุ่นระเบิด กับระเบิด หรือทุ่นสังหาร  ในภายหลังนั้นเกิดความยากลำบากและมีอันตรายมากขึ้น

การตรวจค้นทุ่นระเบิด (Detection Methods)

การตรวจค้นทุ่นระเบิด  กระทำได้  4  วิธีคือ

1)   การตรวจด้วยสายตา
2)   การรวจด้วยเหล็กตรวจค้น
3)   การตรวจค้นด้วยเครื่องตรวจค้นไฟฟ้า
4)   การตรวจค้นด้วยสุนัข

การตรวจค้นด้วยสายตา (Detection by Visual Means) หน่วยทหารทุกเหล่าและทุกสายบริการ จะต้องสามารถตรวจค้นทุ่นระเบิดและกับระเบิดของข้าศึกใช้เสมอ ๆ ในสนามได้ ความสับเพร่าหรือความเร่งรีบของข้าศึกอาจจะทำให้มีสิ่งบอกเหตุต่าง ๆ เหลือทิ้งอยู่ เช่น ดินที่ถูกรบกวน, กองหิน, กากหีบห่อทุ่นระเบิด หรือสลักนิรภัยของชนวน เครื่องหมายสามทุ่นระเบิดของข้าศึก วิธีการตรวจค้นด้วยสายตา เป็นวิธีการที่สำคัญในการตรวจค้นตำบลที่วางทุ่นระเบิดวิธีหนึ่ง ความเป็นมาที่เกี่ยวกับลักษณะและการใช้ทุ่นระเบิดของข้าศึกโดยเฉพาะ มักจะเป็นเครื่องช่วยอย่างใหญ่หลวงในการตรวจค้นหาตำบลที่วางทุ่นระเบิดของข้าศึก ตำบลที่น่าจะเป็นตำบลที่วางทุ่นระเบิดได้แก่
     1. หลุมกลม, รอยแตกบนถนนหรือตำบลอ่อนๆ บนผิวถนน
     2. ข้างใต้ตรงริมของผิวถนนตรงจุดรวมขิงผิวถนนกับไหล่ถนน
     3. บนไหล่ถนนซึ่งวางทุ่นระเบิด และพรางทุ่นระเบิดได้โดยง่ายทุ่นระเบิดที่ฝังลึก ๆ บนไหล่ถนนนั้นตรวจค้นได้ยาก

การคตรวจค้นด้วยเหล็กตรวจค้น (Detection by probing)

ก) การตรวจค้นด้วยเหล็กตรวจค้น เป็นวิธีการตรวจค้นทุ่นระเบิดที่ต้องใช้แทงลงไปในดินด้วยเครื่องมือแหลม ๆ เช่น ดาบปลายปืน หรือลวดเหนียว ๆ การตรวจค้นด้วยเหล็กตรวจค้นเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับตรวจค้นทุ่นระเบิดชนิดโลหะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุ่นระเบิดสังหารขนาดเล็ก ๆ เช่นระเบิดสังหาร M - 14 แต่อย่างไรก็ดีการตรวจค้นด้วยเหล็กตรวจค้นเป็นงานที่ชักช้าและเป็นงานที่น่าเบื่อหน่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ ๆ เป็นน้ำแข็ง เมื่อปรากฎว่าทุ่นระเบิดที่ไม่ทราบชนิดของชนวน หรือ สงสัยว่าเป็นชนวนแม่เหล็ก จะต้องใช้เหล็กตรวจค้นด้วยทองเหลือง ด้วยเหตุผลในทำนองเดียวกันจะต้องนำโลหะที่ไวต่อแม่เหล็กทั้งหมดออกไปให้พ้นพื้นที่ ๆ จะตรวจค้นด้วยเหล็กตรวจค้น

ข) ขณะตรวจค้นด้วยเหล็กตรวจค้น ทหารเคลื่อนที่ด้วยมือและใช้เข่าคลานมองไปข้างหน้าและข้างบนเพื่อตรวจหาลวดสะดุดและเหล็กรับแรงกด ให้ม้วนแขนเสื้อทั้งสองขึ้นเพื่อเพิ่มความไวเมื่อสัมผัสกับลวดสะดุด หลังจากมองและค้นหาแล้ว ทหารใช้เหล็กตรวจค้นแทงลงไปในพื้นดินทุก ๆ ระยะ 2 นิ้ว (5 ซม.) ในกว้างด้านหน้าประมาณ 1 เมตร แทงเหล็กตรวจค้นลงดินเบา ๆ ให้เป็นมุมกับเส้นระดับน้อยกว่า 45 องศา หากแทงลงไปตรง ๆ  แล้วปลายของเหล็กตรวจค้นอาจจะไปกระทำต่อชนวนกดของทุ่นระเบิด ทำให้เกิดระเบิดขึ้นได้ เมื่อเหล็กสัมผัสกับวัตถุแข็งแล้ว ให้หยุดแทงและให้รื้อดินออกด้วยความระมัดระวัง เมื่อพิจารณาได้ตรวจค้นพบสิ่งใด ถ้าหากตรวจค้นพบทุ่นระเบิดแล้ว ให้รื้อดินออกให้มากกพอสมควรเพื่อจะพิจารณาชนิดทุ่นระเบิดและตำบลที่วางทุ่นระเบิดโดยแน่นอนได้

การตรวจค้นด้วยเครื่องตรวจค้นไฟฟ้า (Electrical Detection)

ก) เครื่องตรวจค้นทุ่นระเบิดไฟฟ้า เป็นเครื่องตรงจค้นไฟฟ้าที่หิ้วได้ มีความสามารถในการตรวจค้นทุ่นระเบิดได้ทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุ่นระเบิดชนิดโลหะ เครื่องตรวจค้นไฟฟ้ามีขีดจำกัดโดยแน่นอน แต่เมื่อใช้ร่วมกับการตรวจค้นด้วยสายตาและการตรวจค้นด้วยเหล็กค้นแล้ว จะช่วยในการตรวจค้นทุ่นระเบิดได้ผลดียิ่งขึ้น เครื่องตรวจค้นด้วยไฟฟ้าให้สัญญาณแสดงตำบลที่วางทุ่นระเบิดโดยการใช้เครื่องได้ยินจากชุดหูฟัง และการส่ายของเข็มชี้ในเครื่องวัดที่เห็นได้ด้วยสายตา การใช้เครื่องตรวจค้นไฟฟ้านี้อาจจะใช้ในท่ายืน ท่าคุกเข่าหรือนอนราบ

ข) เครื่องตรวจค้นไฟฟ้าทุกชนิด ให้สัญญาณไม่ถูกต้องบ้างเหมือนหันเครื่องตรวจค้นโลหะขนาดเล็กไม่เพียงแต่จะตรวจค้นทุ่นระเบิดโลหะได้เท่านั้น แต่สามารถตรวจค้นตะปูหรือโลหะชนิดอื่นที่ฝังลึกกว่าทุ่นระเบิดได้อีกด้วย ความชำนาญในการปฏิบัติต่อเครื่องตรวจค้นแต่ละชนิดจะช่วยให้พิจารณาได้ว่าอะไรทำให้เครื่องตรวจค้นส่งเสียงสัญญาณ แต่โดยมากมักจะต้องใช้การตรวจค้นด้วยเหล็กตรวจค้นร่วมกับเครื่องตรวจค้นไฟฟ้าด้วย ในทำนองเดียวกันเครื่องตรวจค้นทุ่นระเบิดอโลหะ อาจจะส่งสัญญาณไม่ถูกต้อง เมื่อเครื่องมือตรวจค้นส่ายเหนือรากไม้หรือหลุมอากาศ ลักษณะของดินที่มีแม่เหล็กเพิ่มความยุ่งยากให้กับเครื่องตรวจค้นโลหะขนาดเล็ก แต่ไม่มีผลกระทบกระเทือนต่อเครื่องตรวจค้นโลหะ

ค) ทหารที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ใช้เครื่องตรวจค้น จะต้องมีความรู้ในขีดความสามารถของเครื่องตรวจค้นที่ใช้โดยละเอียด ทหารที่เป็นพลประจำเครื่องตรวจค้น จะต้องตรวจค้นหากัยระเบิดและลวดสะดะดุดตลอดเวลา จะต้องมอบหมายหน้าที่ในการตรวจค้นให้การทำงานไม่เกิดช่วงระยะเวลา 20 นาที

เครื่องตรวจค้นไฟฟ้าที่มีอยู่คือ

ก. AN / PRS - 3 (POLLYSMITH)
ข. AN / PRS - 3 (TRANSISTORIYED)
ค. AN / PPS - 4 (UNCLE HENRY)
ง. AN / PRS - 2 (JEEP Mounted Detection)
จ. MICROWAVE MINE DETECTOR


การตรวจค้นด้วยสุนัข  สุนัขที่ใช้ตรวจค้นทุ่นระเบิด  จะได้รับการฝึกมาแล้วอย่างดี สุนัขแต่ละตัวจะมีผู้ควบคุมซึ่งเรียกว่า  ผู้บังคับสุนัข วึ่งสุนัขจะฟังคำสั่งเฉพาะผู้บังคับตนเท่านั้น  ดังนั้นการตรวจค้นทุ่นระเบิดของสุนัขจะใช้วิธีดมกลิ่นและฟังเสียงจากลวดสะดุด  การปฏิบัติการของสุนัขจะใช้ได้ผลดีมากในขณะที่มีลมพัด เมื่อสุนัขพบทุ่นระเบิดจะให้สัญญาณเตือนภัย ซึ่งสัญญาณการเตือนภัยของสุนัขแต่ละตัวจะไม่เหมือนกัน  แต่ผู้บังคับสุนัขแต่ละคนจะทราบได้ ดังนั้น ในการตรวจสอบจุดวางที่แน่นอนของทุ่นระเบิดหรือกับระเบิด การตรวจค้นของสุนัขจะให้ผลดีถ้าสุนัขแต่ละตัวปฏิบัติงานไม่เกิน 3 ชั่วโมง แต่ถ้าให้ทำงานระยะสั่น ๆ และให้พักเป็นระยะ ๆ แล้ว เวลาการปฏิบัติงานอาจจะขยายออกไปได้ 6 - 8 ชั่วโมง

การรื้อถอนทุ่นระเบิด  (Removal Methods) วิธีรื้อถอนทุ่นระเบิดกระทำได้  5 วิธีคือ

1. การยกทุ่นระเบิดด้วยมือ
2.การรื้อถอนด้วยเชือก
3.การทำลาย  ณ  ที่วาง
4. การรื้อถอนด้วยเครื่องกล
5. วิธีอื่น ๆ

1. การยกทุ่นระเบิดด้วยมือ (Hand Lifting Mine) การทำให้ทุ่นระเบิดอยู่ในลักษณะที่ปลอดภัยนั้น กระทำได่โดยการตัดสาย การจุดระเบิดของทุ่นระเบิดทุก ๆ สายให้ขาดจากกัน หากสถานการณ์ต่าง ๆ อำนวยให้แล้ว การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ไวไฟลาดสนามทุ่นระเบิดที่มีหญ้าขึ้นสูงแล้วจุดไฟขึ้น  ก็จะทำให้การรื้อถอนทุ่นระเบิดง่ายขึ้น จะต้องตรวจสอบลวดสะดุดและใช้หลักการตรวจค้นในพื้นที่ด้วยความระมัดระวัง
     การรื้อถอนด้วยระเบิดมือนั้น  ใช้เฉพาะเมื่อผู้บังคับบัชาได้พิจารณาเห็นว่าต้องการมิให้บังเกิดเสียงดังเกี่ยวกับผลทางยุทธวิธี  หรือใช้เมื่อทุ่นระเบิดวางอยู่ในที่ซึ่งเมื่อระเบิดขึ้นแล้ว  จะทำความเสียหายให้แก่สิ่งอำนวยความสะดวกที่สำคัญ  ทุ่นระเบิดของต่างประเทศบางชนิดมีเครื่องป้องกันการยกหรือเครื่องป้องกันการรบกวนติดอยู่กับทุ่นระเบิดด้วย  ทุ่นระเบิดเหล่านี้ไม่ทำการรื้อถอนได้โดยไม่จุดระเบิดขึ้น
การยกทุ่นระเบิดด้วยมือใช้ได้เฉพาะเมือ่ได้พิจารณาจากการลาดตระเวณแล้วว่าชนิดของทุ่นระเบิดในสนามสามารถทำให้ไม่พร้อมระเบิด และรื้อถอนด้วยมือได้เท่านั้น วิธีการที่เปลืองเวลามากนี้จะต้องใช้พนักงานซึ่งได้รับการฝึกมาอย่างดีในเรื่องทุ่นระเบิดและชนวน
     1) ใช้เวลาตรวจค้นตรวจหาตำบลที่วางทุ่นระเบิดโดยแน่นอน
     2) รื้อถอนสิ่งปกคลุมทุ่นระเบิดออกเพื่อตรวจสอบชนิดทุ่นระเบิด กวาดฝุ่นรอบ ๆ ทุ่นระเบิดออก และใช้มือคลำลวดสะดุดและเครื่องจุดระเบิดกันเขยื้อน
     3) เมื่อได้ทำเครื่องจุดระเบิด ซึ่งอยู่ข้างบนทุ่นระเบิดและด้านข้างทุ่นระเบิดให้ไม่พร้อมระเบิดแล้ว ให้ขุดหลุมข้างทุ่นระเบิดอีกหลุมหนึ่ง ใช้ลวดแหลมแทงข้างใต้ทุ่นระเบิดในการตรวจค้นหาดังกล่าวนี้ กระจกเงาขนาดเล็กจะช่วยได้มาก
     4) ยกทุ่นระเบิดขึ้นด้วยความระมัดระวัง และนำไปยังตำบลปลอดภัยเพื่อจัดการทำลาย
     5) อย่าพยายามยกทุ่นระเบิดด้วยมือ ถ้าชนวนทุ่นระเบิดอยู่ในสภาพชำรุดเสียหาย

2. การรื้อถอนด้วยเชือก (Rope Removal) เมื่อได้ตรวจสอบทุ่นระเบิดแล้ว ให้ใช้วิธีรื้อถอนด้วยเชือก วิธีนี้จะช่วยให้ลดอันตรายที่เกิดจากเครื่องป้องกันการยกทุ่นระเบิด ที่อาจจะมีอยู่ข้างใต้ทุ่นระเบิดได้มาก ให้ใช้เชือกหรือโยธะกา ผูกบนทุ่นระเบิดและดึงในระยะปลอดภัยข้างหลังเครื่องป้องกันที่ใช้กำบังได้  รัศมีอันตรายของทุ่นระเบิด ส่วนมากในปัจจุบันนี่มีมากกว่า 50 เมตร  การดึงทุ่นระเบิดอาจจะช่วยใช้โครงไม้รูปตัว A หรือโครงไม้รูปตัว T ที่แสวงเครื่องในสนามเป็นเครื่องช่วยได้ ไม่ควรใช้โครงโลหะในการดึงทุ่นระเบิด เพราะว่าเมื่อทุ่นระเบิดขึ้น จะทำให้โครงโลหะถอยมาข้างหลังตรงเข้าหาพนักงานดึง
     1) รื้อสิ่งปกคลุมทุ่นระเบิดออก เพื่อให้เห็นบางส่วนของทุ่นระเบิดที่เหมาะสมสำหรับจะใชเชือกหรือลวดผูกได้โดยไม่รบกวนทุ่นระเบิด
     2) ใช้ปลายข้างหนึ่งของเชือก , ลวด กรือเชือกลวด ซึ่งมีความยาวอย่างน้อย 50 เมตร ผูกเข้ากับทุ่นระเบิด (หากจำเป็นให้สอดปลายเป็นของเชือกบนโครงตัว A  ซึ่งวางอยู่เหนือทุ่นระเบิด)  
     3) ต้องแน่ใจว่าพนักงานทุก ๆ คนที่อยู่ในบริเวณนั้นได้เข้าที่กำบังแล้ว
     4) เข้าที่พักกำบังซึ่งอยู่ห่างจากทุ่นระเบิด 50 เมตร และดึงทุ่นระเบิดเมื่ออยู่ในหลุุม
     5) คอย 30 วินาที ก่อนออกจากที่กำบังและเข้าไปยังทุ่นระเบิด
     6) ตรวจสอบหลุมอีกครั้งหนึ่ง เพื่อค้นหาทุ่นระเบิดเพิ่มเติม
     7) ถอดชนวนออกจากทุ่นระเบิด หรือตัดสายการจุดระเบิดของทุ่นระเบิด
     8) ขนทุ่นระเบิดไปยังกองทุ่นระเบิด เพื่อจัดการทำลายหรือนำไปใช้ใหม่

3. การทำลาย ณ ที่วาง (Destruction in Place) การใช้วัตถุระเบิดในการทำลายทุ่นระเบิด หลังจากตรวจพบที่วางแล้ว เป็นวิธีการที่ปลอดภัยที่สุด แต่ต้องได้พิจารณาว่า ถ้าหากทุ่นระเบิดเคมีมีพิษทุ่นหนึ่งหรือหลายทุ่นระเบิดขึ้น จะเกิดการเป็นพิษและจะได้รับอันตรายเมื่อลมพัดมาทางฝ่ายเรา การจุดทุ่นระเบิดส่วนมากใช้ดินระเบิดแท่งเหลี่ยมขนาด 1 ปอนด์ หรือดินระเบิดพลาสติกเพียง 1 กำมือ ประกอบกับเครื่องจุดระเบิดต่อเข้ากับทุ่นระเบิดหลาย ๆ ทุ่น และจุดระเบิดให้ระเบิดพร้อม ๆ กันได้ ในบางสถานการณ์การจุดระเบิดด้วยวัตถุระเบิด เป็นวิธีการท่ีพึงประสงค์น้อยกว่าการใช้วิธีรื้อถอนด้วยเชือก หรือการด้วยถอนด้วยมือ โดยเฉพาะเมื่อจะทำความเสียหายต่อสิ่งอำนวยความสะดวกที่สำคัญขึ้นได้เช่น สะพาน อาคาร และถนน

4. การรื้อถอนด้วยเครื่องมือกล Mechanical Devices) เครื่องมือกลที่ใช้อาจเป็นรถถัง รถสายพานลำเลียงพล หรือยานพาหนะประเภทล้อ อื่น ๆ ประกอบกับเครื่องที่รื้อถอนทุ่นระเบิด เช่น ลูกกลิ้งบดทับ , เครื่องไถ, เครื่องคุ้ยดิน

ประสบการณ์และผลได้จากเครื่องตรวจค้น

1. ตรวจพบยาก เพราะทุ่นระเบิดหรือกับระเบิดไม่มีโลหะอยู่เลย
2. ทุ่นหรือกับระเบิดเป็นโลหะ แต่ตลอดทางข้าศึกวางทุ่นระเบิดไว้เต็มไปหมดจนเราตายใจ
3. วางทุ่น หรือกับระเบิดไว้ลึก แล้ววางทุ่นหลอกไว้ผิวหน้า ผู้ตรวจที่ไม่ตรวจซ้ำจะเป็นอันตราย
4. ความชำนาญไม่เพียงพอ
6. ความประมาท
7. เครื่องตรวจประสิทธิภาพไม่ดี
7. กลโกงของข้าศึก



ที่มาของบทความ :  คู่มือ และระเบียบหลักสูตรแจ้งเตือนและให้ความรู้
กองพันปฏิบัติการจิตวิทยา หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ


วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่พบในประเทศไทย

ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่พบในประเทศไทย พ.ศ.2543- ธ.ค.2554

วันพุธที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

TMAC Orientation

ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (Thailand Mine Action Center)

จัดการปฐมนิเทศให้กับกำลังที่จะปฏิบัติหน้าที่ใหม่ในปีงบประมาณ 2556 

พลโท สีหนาท  วงศาโรจน์
หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ
เป็นประธานเปิดการปฐมนิเทศ

พลโท สีหนาท  วงศาโรจน์ หน.ศทช.ศบท.บก.ทท.
ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว

วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ระเบิดแสวงเครื่อง หรือ IED


 (Improised Explosive Device)  ถูกใช้กันมากในกลุ่มผู้ก่อการร้าย (โดยเฉพาะสงครามในตะวันออกกลาง) กลุ่มเป้าหมายหลักในการทำลายคือ กองกำลังทหาร ,ยานพาหนะ รวมถึงรถถังขนาดใหญ่  กลุ่มก่อการร้ายสามารถทำการวางกับระเบิดได้หลายพื้นที่เช่น ข้างทาง  บนถนน  ในพุ่มไม้  หรือในที่ ๆ กองกำลังศัตรูใช้เป็นทางผ่านอยู่ประจำ เมื่อศัตรูเข้าใกล้เป้าหมายกลุ่มก่อการร้ายก็จะทำการจุดชนวนระเบิดทันทีความเสียหายที่ได้รับมีมากมาย   รวมถึงรถถังก็ไม่สามารถต้านทานได้  เพราะจุดอ่อนของรถถังคือบริเวณใต้ท้อง เมื่อเกิดระเบิดก็ทำให้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก

                    จากภาพ  การวางระเบิดแสวงเครื่องลอบโจมตีขบวนยานยนต์

วงจรการระเบิด  จะประกอบด้วย
- ดินระเบิดหลัก  เช่น   พวกดิน TNT,C4,C3,PETN แอมโมเนียมไนเตรด ฯลฯ
- ดินขยายการระเบิด  เช่น  เชื้้อปะทุชนวน ,เชื่้้อปะทุไฟฟ้า
- กำเนิดการจุด  เช่น  กระแสไฟ,ไฟ,ความร้อน,การเสียดสี


ตัวอย่าง    การวางกับระเบิดแสวงเครื่องในวิทยุทรานซิเตอร์  โดยเอาดิน C4 (ดินหลัก) มาอัดใส่หลังลำโพง  แล้วเสียบปะทุไฟฟ้า (ดินขยาย) แล้วลากสายไฟไปที่รังถ่านแบตเตอรรี่ของวิทยุ (ส่วนกำเนิด
การจุด) ที่ใส่ถ่านไว้   โดยใช้สวิทเปิด/ปิดวิทยุเป็นสะพานไฟ   พอมีบุคคลเป้าหมายมาเปิดวิทยุฟังก็   ระเบิดตูม!  นี่คือระเบิดแสวงเครื่อง  เพราะตัววิทยุกับวงจรไฟฟ้าที่วิทยุมีอยู่ไม่ใช่วัสดุมาตรฐานจากโรงงานผลิดระเบิด  โดยเฉพาะ ........แต่เป็นวัสดุที่ผู้ใช้แสวงหามาจากของใช้ทั่ว ๆ ไป



http://sebrialland.free.fr/Schema_reseau_fichiers/go.gif ที่มา: 
http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=1557.0
http://en.wikipedia.org/wiki/Improvised_explosive_device
http://en.wikipedia.org/wiki/Bomb

เยี่ยมชมส่วนประสานการปฏิบัติและประเมินผล


ส่วนประสานการปฏิบัติและปะเมินผล  มีโอกาสได้ต้อนรับ พันเอกญิง จิรัฎธ์  สีตะจันทร์  ศทช.ฯ
ตำแหน่ง  รองหัวหน้าส่วนกิจการพิเศษ และ พันเอก กิติพงษ์   จุลพงษ์  ตำแหน่ง
 รองหัวหน้าส่วนประสานการปฏิบัติและประเมินผล ศทช.ฯ 
 ท่านทั้งสองมีความสนใจ ระเบิดชนิดต่าง ๆ ที่พบในประเทศไทย












สิบเอก วราวุฒิ  ประสานสิน ให้คำอธิบายชนิดของระเบิด




ทุ่นระเบิดสังหารบุคล ระเบิดอยู่กับที่ PMN 2


                                                                         ทุ่นระเบิดสังหารบุคล ระเบิดอยู่กับที่  PMN 2

ประเทศต้นกำเนิด       รัสเซีย

ความสูง                      54 มม.

เส้นผ่าศูนย์กลาง         125 มม.

น้ำหนักตัวทุ่น              .45 กก. หรือ 15.9 ออนซ์

วัตถุระเบิด COM-B           .115  กก. หรือ 4.1 ออนซ์

ชนวนในตัว

วัสดุห่อหุ้ม                  พลาสติก และ ยาง

สี                                ส่วนรับแรงกดสีดำหรือน้ำตาล ตัวทุ่นสีเขียว หรือ สีน้ำตาล

การทำงาน                  น้ำหนักกด 11 ปอนด์

ที่มาของภาพhttp://www.ddasonline.com

ที่มาของเนื้อหา วิชาสงครามทุ่นระเบิด ร.ร.ทหารช่าง   หลักสูตรตรวจค้นและทำลาย TMAC

วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ความฝันที่ใกล้จะเป็นจริง


           วันนี้ฉันรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ รีบตื่นแต่เช้านึ่งข้าวเหนียว ตั้งแต่ไก่โห่ ปลุกน้องๆสองคนมาอาบน้ำแต่งตัวรอแม่ทำกับข้าว ส่วนพ่อก็ออกไปรับจ้างกรีดยางแต่ก่อนเช้ามืด เดี๋ยวนี้แถวบ้านฉันหันมาปลูกยางพารากันเป็นล่ำเป็นสัน ก็ดีเรายังได้รับจ้างพอประทังไปวันๆ นึกถึงเมื่อก่อนนี้เรามีที่นายังได้ทำนาไม่ลำบากเหมือนเช่นวันนี้ ฉันเคยถามพ่อว่า “พ่อจ๋า ทำไมเราไม่กลับไปทำนาเหมือนเดิมละจ๊ะ” พ่อบอกฉันด้วยน้ำเสียงที่ปลอบโยนว่า ”เดือนเอ๊ย.....อีกไม่นานหรอกลูก ตอนนี้มีหน่วยงานหนึ่งที่เรียกว่าศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติได้เข้ามาเพื่อช่วยเหลือพวกเราแล้ว” พ่อพูดขึ้นพร้อมกับแววตาแห่งความหวัง “เมื่อสามวันก่อนผู้ใหญ่ขำเรียกชาวบ้านไปประชุม ว่าหน่วยงานนี้จะเข้ามาทำงานที่หมู่บ้านเราแล้ว ต่อไปเราก็จะกลับไปทำนาในที่นาของเราเหมือนเดิมแล้วแหละ...พอเราทำนาได้เราก็จะมีเงิน เอ็งกะน้องๆก็จะได้เรียนสูงๆกินอิ่ม.” ฉันดีใจจนโผลงออกมาว่า”จริงๆหรือจ๊ะพ่อ”  พ่อหัวเราะร่วนพร้อมกับพูดขึ้นว่า ” ฮ่า ๆๆๆ พ่อเคยปดเอ็งกะน้องรึ ” ฉันยังจำวันนั้นได้ดี มีการสู้รบระหว่างเรากับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งก่อนหน้านั้นพวกเรายังไปมาหาสู่กันอยู่เหมือนพี่น้องกัน ต่อมาไม่นานมีทหารกลุ่มหนึ่งได้เอาป้ายสีแดงๆรูปหัวกะโหลกสีขาว มาติดไว้ในแถบที่นาของฉัน และ มีข้อความว่า ทุ่นระเบิดอันตราย  ห้ามเข้า อีกไม่กี่วัน ลุงผิน พ่อ ไอ้จ้อน กะ ป้าจัน แม่ไอ้คำ ได้เข้าไปบริเวณแห่งนั้น ก็ไปเหยียบทุ่นระเบิดเข้าทำให้ขาขาดดูน่ากลัวมาก ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาพวกเราไม่มีใครกล้  เข้าไปในพื้นที่นั้นอีกเลย                                                                                                                                                                                                                       เมื่อวานคุณครูประกาศว่าจะมีทหารมาจากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ มาให้ความรู้แก่พวกเราเกี่ยวกับทุ่นระเบิด และ สรรพวุธระเบิดที่ยังไม่ระเบิด ทำให้ฉันนึกถึงคำพูดของพ่อ และ รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความหวังของพ่อ อีกไม่นานซินะฉันจะได้กลับไปทำนา ไปวิ่งเล่นที่ท้องทุ่งนาของฉัน คิดแล้วช่างมีความสุขเหลือเกิน  ฉันนั่งล้อมวงกินข้าวพร้อมน้องๆกินไปยิ้มไปจนแม่ต้องมาสะกิดและพูดว่า ” นี่เป็นอะไรของเอ็งอีกละฮึนังเดือน รีบๆกิน พาน้องไปโรงเรียน เดี๋ยวก็สายแย่ “ ฉันสะดุ้งพร้อมรับคำ “ จ๊ะๆๆแม่หนูอิ่มละ ” ฉันลุกไปล้างมือหยิบกระเป๋าหนังสือเก่าจนเกือบขาดมาวางข้างๆพร้อมหยิบรองเท้าแตะเตรียมไปโรงเรียน และ ร้องบอกน้องชายสองคน “ ดำ เด่น เสร็จยังเร็วๆรีบๆเดี๋ยวไม่ทัน ” พูดเสร็จพร้อมโอบกระเป๋ามาหนีบที่รักแร้พนมมือไหว้แม่ก่อนไปโรงเรียน....
          .พอถึงโรงเรียน ฉันเห็นทหารที่แต่งกายไม่คล้ายกับทหารสักเท่าไหร่ เพราะทุกคนไม่มีปืนแม้แต่กระบอกเดียว นี่ซินะที่เขาเรียกว่า ทำงานด้านมนุษยธรรม ที่ฉันเคยได้ยินได้ฟังมาบ้าง ทุกคนดูยิ้มแย้มแจ่มใส มีรถสีขาว ข้างๆมีตราลูกโลกติดไว้เป็นตราสัญลักษณ์ นี่แหละมั๊ง หน่วยงานที่จะมาทำให้ฝันของฉันและทุกๆคนในหมู่บ้านนี้เป็นจริง ฉันใจจดจ่ออยู่กับคุณลุง คุณอา ทหารที่มาเยือน ว่าท่านเหล่านี้จะมาบอกอะไรแก่พวกฉันและมาทำอะไรให้หมู่บ้านฉันบ้าง หลังจากพวกฉันทำกิจกรรมหน้าเสาธงเสร็จคุณครูก็แนะนำคุณลุง คุณอาทหารเหล่านี้ให้พวกเรารู้จัก ฉันสังเกตเห็นมีโต๊ะตัวหนึ่ง มีอะไรไม่รู้วางเรียงอย่างเป็นระเบียบ มีทั้งแผ่นพับ ป้ายหัวกะโหลกสีแดงๆ ลูกกระสุนปืนใหญ่ชนิดต่างๆ ที่เราเคยเก็บไปขายหลังจากที่มีมาตกฝั่งบ้านเรา และ อีกหลายคนก็โดนลูกปืนเหล่านี้เล่นงาน บาดเจ็บล้มตายไปแล้วหลายราย
            มีเสียงนุ่มๆเพราะๆเหมือนกับพิธีกรในทีวีที่เราเคยเห็น กล่าวทำลายบรรยากาศที่อยากรู้อยากเห็นของพวกเรา “ สวัสดีครับ นักเรียนทุกคน พวกอาเป็นตัวแทนของ หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรม ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ จะมาให้ความรู้เบื้องต้นแก่พวกเราทุกๆคน ให้รู้ถึงโทษภัย และลักษณะของทุ่นระเบิดว่าเป็นอย่างไร ซึ่ง อาจะขอรบกวนเวลาของหนูๆแค่ 9 นาที ”คุณอาทหารท่านหนึ่งได้กล่าวแนะนำตัว และ สวัสดีพวกเรา ด้วยหน้าตายิ้มแย้มและเป็นมิตร “ ที่พวกหนูๆเห็นอยู่ข้างหน้านี้เป็นตัวอย่างของทุ่นระเบิด ทั้งสังหารบุคคล , ดักรถถัง , และ สรรพวุธระเบิด ที่ยังไม่ระเบิด “ ท่านก็หยิบมาอธิบายทีละชิ้นๆพร้อมกับบอกเราว่า “ถ้าหนูเจอสิ่งที่มีลักษณะแบบนี้อย่าไปแตะ อย่าไปต้อง เพราะมันเป็นอันตรายมาก เพราะมันจะทำให้เราบาดเจ็บ พิการหรืออาจถึงตายได้ ถ้าหนูพบเห็นสิ่งวัตถุในลักษณะแบบนี้ ให้รีบแจ้ง ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน คุณพ่อ คุณแม่ หรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร โดยเร็วที่สุด” ท่านกล่าวไปยกตัวอย่างไป พาพวกเราตอบปัญหา เล่นเกม เป็นที่สนุกสนานพอสมควร
     จนถึงเวลาสรุป คุณอาอีกคนก็มากล่าวว่า ” ที่คุณลุงท่านนี้อธิบายมีหนูๆคนไหนสงสัยอะไร ถามมาได้เลยนะครับ “ เจ้าแจ็ค จอมแสบประจำโรงเรียนลุกขึ้นถามว่า “ อาครับ ไอ้เจ้าสรรพวุธระเบิดที่ยังไม่ระเบิดมันคืออะไรครับ “ คุณอาทหารท่านตอบด้วยเสียงอันดังชัดเจน แต่แฝงถึงความเอ็นดูว่า “ มันก็คืออาวุธกระสุนระเบิดนั่นเองครับ รวมถึง บรรดาลูกระเบิดขว้างชนิดต่างๆ ลูกยิงจรวจ พวกนี้จะอันตรายมากๆ เพราะระบบกลไกลข้างในนั้นอาจจะเป็นแบบตั้งเวลาจุดชนวน หรือ ระบบกระทบแตก บางทีข้างในจะมีแร่แปโซอยู่ในส่วนหัวซึ่งจะทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงมาก หากอยู่ในภาวะที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น ปกติมันจะอยู่กลางแดดร้อนๆแต่เวลาหนูเจอมัน หนูเข้าไปดูเงาของหนูอาจทำให้มันเกิดปฏิกิริยา จุดชนวนระเบิดขึ้น เห็นไหมครับ มันอันตรายจริงๆ และน่ากลัวมากๆ และดินระเบิดข้างในเป็นดินระเบิดแรงสูง เจาะเกราะ ต่อต้านรถถังระเบิดมันอันตรายมาก” เจ้าแจ็คพูดต่ออีกว่า “ แล้วทำไมอาถึงกล้าทำละครับ ไม่กลัวหรือครับ มันอันตรายมากๆเลยนะ “  คุณอาท่านนั้นยิ้มๆและตอบว่า “ครับใช่มันอันตรายมาก แต่พวกอาได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี เรียนรู้มาจนเกิดความชำนาญ และ อีกอย่างพวกอาอยากให้พวกหนูๆอยู่กันอย่างมีความสุข และ มันเป็นหน้าที่ของอาครับ ฉะนั้นเมื่อเป็นหน้าที่ของอา แล้วมันเป็น หน้าที่ ของพวกหนูหรือไม่ที่จะเข้าไปยุ่งกับมัน ” พวกเราตอบกันอย่างพร้อมเพรียง” ไม่ครับ ไม่คะ ”  เพราะพวกเราได้เห็นภาพที่ คุณลุง คุณอา ทหารนำมาให้ดู แต่ละภาพดูน่ากลัวมาก   และอีกอย่างเราก็เคยเห็นภาพที่คนในหมู่บ้านเราไปโดนเข้า มันยังติดตาและฝังใจเรามาโดยตลอด     “ มีใครสงสัยอะไรอีกไหม “  ฉันยกมือขึ้นถาม ”มีคะ แล้วเมื่อไหร่คุณอาจะเข้ามาทำการกวาดล้างที่หมู่บ้านหนูละคะ “  คุณลุงที่อาวุโสสุดในกลุ่มตอบว่า “ อ้อ...จ้าพวกเราได้ขนย้ายอุปกรณ์ทุกอย่าง กำลังพล ไม่ว่าจะเป็นสุนัขตรวจค้น เครื่องจักรกล เครื่องตรวจค้นมากันแล้วครับ และจะเริ่มทำงานกันพรุ่งนี้เลยครับ  ดีไหม...?  แต่พวกหนูๆเมื่อได้รับความรู้แล้วต้องถ่ายทอดถึงโทษภัยของมันต่อๆไปนะครับ “ เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงตะโกนด้วยความดีใจพร้อมเสียงปรบมือดังกึกก้อง “ และอีกนานไหมคะถึงจะเสร็จ “ ฉันยกมือถามอีก เพราะอยากจะได้ไปทำนาสักที พ่อก็ไม่ต้องไปรับจ้าง คุณลุงทหารคนเดิมตอบอย่างมั่นใจ “ ไม่นานหรอกครับ พวกเราสัญญาว่า จะเร่งทำงานให้คุ้มค่ากับภาษีที่พ่อแม่ของหนูๆจ้างพวกเรามาทำงาน และโปรดวางใจ พวกเราจะทำให้พื้นปลอดภัยอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์เราให้สัญญา” คุณลุงรับปากพวกเราอย่างหนักแน่น สมกับเป็นชายชาติทหาร หนูขอขอบพระคุณคุณลุง คุณอาทุกๆท่าน ที่อุทิศร่างกาย แม้เหน็ดเหนื่อย ลำบาก และ อันตรายเพียงใด ก็ไม่เคยย่อท้อหรือบ่น ทั้งๆคุณลุง คุณอาเหล่านั้นก็มีครอบครัว มีลูกที่ต้องการ การเอาใจใส่ดูแล ไม่แตกต่างจากพวกเราเลย แถมยังมาให้กำลังใจให้ความรู้แก่พวกหนูๆ 
           คุณลุง คุณอา ทหารได้บอกพวกเราว่า “พวกเรากู้ทุ่นระเบิดได้หนึ่งลูกเท่ากับเราช่วยชีวิตคนได้ถึงห้าคน เพราะครอบครัวหนึ่งจะประกอบไปด้วย พ่อแม่และลูกๆเป็นอย่างต่ำ ถ้าพ่อเป็นหรือใครคนใดคนหนึ่งในครอบครัวอะไรไป คนที่เหลือก็ไม่แตกต่างกัน ก็จะตกอยู่ในสภาพเดียวกัน” ทำให้ฉันนึกถึงภาพของ ลุงผิน กับป้าจัน ทันที ดูเพื่อนของฉันแย่ลงทันตาเห็น ไม่ว่าจะเป็นการเป็นอยู่ สภาพจิตใจที่หงอยเหงา  ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจงดลบันดาลให้คุณลุงคุณอาทุกๆคนจงปลอดภัยและมีความสุขด้วยเทอญ........หนูจะรอวันนั้นนะคะวันที่คุณลุงคุณอารับปากพวกหนูไว้...หนูจะรอคะ

วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

มารู้จักเจ้าตัวร้าย.....ปิ่นโตมฤตยูสีน้ำตาล

เพราะเหตุใดเราจึงเรียกมันว่า"ปิ่นโต"มฤตยูสีน้ำตาล....? มันคืออะไร.....และ ทำไมจึงได้ชื่อว่าปิ่นโต

*****        มันเป็นทุ่นระเบิดสังสารบุคคลแบบอยู่กับที่ ที่มีลักษณะคล้ายภาชนะที่เราเรียกว่าปิ่นโต มีสีน้ำตาลไหม้ฝาสีดำสนิท(เป็นแป้นรับแรงกด) ยังหลงเหลืออีกมากมายคณานับที่ถูกฝังอยู่บริเวณฝืนแผ่นดินไทย ในพื้นที่กว่า 530.8  ตารางกิโลเมตร ครอบคลุม 18 จังหวัด บริเวณตามแนวชายแดน ไทย-ลาว ไทย-กัมพูชา ไทย-พม่า และไทย-มาเลเซีย  ในแต่ละปีประชาชนที่ได้รับอันตรายจากทุ่นระเบิดประมาณ 10-30 คน ซึ่งเกิดจากการดำรงชีวิตประจำวัน การหาของป่าตามฤดูการณ์ ซึ่งนับได้ว่ามันคือ " ขยะ "ร้ายที่เราต้องปัดกวาดออกจากบ้านของเราให้หมดไป เพื่อความปลอดภัย อุ่นใจ ของพี่ น้องชาวไทย และ เป็นไปตามอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม หรือผลิต ทุ่นระเบิด และ ทำการกวาดล้างให้หมดไปจากผืนแผ่นดินไทย พวกเรา TMAC ทุกคนพร้อมที่จะทำหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายให้บรรลุถึงและลุล่วงให้จงได้ พวกเราสัญญา***
                                                 
 ที่มาของภาพ http://tmac.rtarf.mi.th


                                           เรามาดูหน้าตาของเจ้าตัวร้ายกันชัดๆครับ  

ประเทศต้นกำเหนิด    สหภาพโซเวียด
ความสูง        56 มม.
เส้นผ่าศูนย์กลาง    112 มม.
น้ำหนักทุ่น    .60 กก. หรือ 1.3 ปอนด์
ดินระเบิดชนิด TNT .240 กก. หรือ 8.4 ออนซ์
ชนวน ใช้ดินระเบิดนำและดินขยายการระเบิด TETYRL(0.35 ออนซ์)
วัสดุห่อหุ้ม พลาสติกและยาง
สี   ฝาครอบส่วนรับแรงกดสีดำ หรือ น้ำตาล ตัวทุ่นทำด้วยพลาสติกอย่างหนาสีน้ำตาล
การทำงาน    น้ำหนักกด 5-8 กก.
                                                
                                                    ทำอันตรายต่อเท้าผู้เหยียบทำให้ขาด


วัตถุประสงค์การจัดทำ  เพื่อแจ้งเตือนและให้ความรู้ ถึงรูปร่างลักษณะ และ โทษภัยของทุ่นระเบิดชนิดต่างๆ

ที่มาของเนื้อหาทุ่นระเบิดสังหารบุคคลได้จาก    ตำราสงครามทุ่นระเบิด ร.ร.ทหารช่าง , หลักสูตรตรวจค้นและทำลายของ TMAC



*********************************************************************************



ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลสะเก็ดระเบิดที่พบในประเทศไทย

ชื่อทุ่นระเบิด               M18A1 หรือที่เรารู้จักกันในนาม เคลโมร์

ประเทศต้นกำเหนิด    สหรัฐอเมริกา

ความยาว                    83 มม.

ความกว้าง                  216 มม.

น้ำหนักตัวทุ่น              3.5 ปอนด์ หรือ 1.60 กก.

วัตถุระเบิด( C4 )          หนัก 1.5 ปอนด์

วัสดุห่อหุ้ม                   พลาสติกสีเขียว

ประเภทชนวน              บังคับจุด เชื้อประทุไฟฟ้า

สะเก็ดระเบิด                ลูกปลาย 700ลูก

*********************************************************************************

ที่มาของเนื้อหา วิชาสงครามทุ่นระเบิด ร.ร.ทหารช่าง , หลักสูตรตรวจค้นและทำลาย TMAC

ที่มาของภาพ WWW.IMFDB.ORG

#################################################################################

ชื่อทุ่นระเบิด   DH -10 ( เคโมร์) / MON 100

ประเทศต้นกำเหนิด          เวียดนาม / รัสเซีย

ความสูง:                           80 มม.

เส้นผ่าศูนย์กลาง:              220 มม.

น้ำหนักทุ่น                        5.4 กก.

วัตถุระเบิด                         TNT                    

น้ำหนักระเบิด:                   2.กก.

วัสดุห่อหุ้ม:                       โลหะ

สี:                                      เขียว

ชนวน                              บังคับจุดด้วยเชื้อประทุไฟฟ้าหรือเสียดสี  MUV ชุด VPF และไฟฟ้า

การทำงาน                       ระเบิดอยู่กับที่มีสะเก็ดระเบิด  ลูกปลายขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1/2 นิ้ว

ระยะหวังผล                      50 เมตร


ที่มาของเนื้อหา      วิชาสงครามทุ่นระเบิด ร.ร.ทหารช่าง , หลักสูตรตรวจค้นและทำลาย TMAC

ที่มาของภาพ          http://www.jca.apc.org

ส่วนประสานการปฏิบัติอบรมการปรับลดพื้นที่ด้วย Land Release

วันนี้ถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่พวกเราได้มีโอกาสได้รับฟังการบรรยาย แบ่งปันประสบการณ์ และได้รับ

ความรู้ใหม่ เพิ่มเติมในสิ่งที่ยังไม่รู้ในเนื้อหาเกี่ยวกับการปรับลดพื้นที่ด้วย วิธี  Land Release โดย

พันเอก สุชาต  จันทรวงศ์ หัวหน้าแผนกส่วนประประสานการปฏิบัติ และประเมินผล และ

สิบเอก อนุวัฒน์   ชัยชนะ

พ.อ.สุชาต  จันทรวงศ์
ให้ความรู้การปรับลดพื้นที่ด้วยวิธี Land Release
แก่ ข้าราชการ ส่วนประสานการปฏิบัติและประเมินผล




ส.อ.อนุวัฒน์  ชัยชนะ อธิบายและแบ่งปันความรู้
เรื่อง การปรับลดพื้นที่ด้วยวิธี Land Release

เพิ่มคำอธิบายภาพ

ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลกระโดดระเบิด M26

ประเทศต้นกำเหนิด           สหรัฐอเมริกา

ชนิดของทุ่นระเบิด            สังหารบุคคลกระโดดระเบิดมีสะเก็ดระเบิด

สูง                                     145 มม. หรือ 14.5 ซม.

เส้นผ่าศูนย์กลาง               79 มม. หรือ 7.9 ซม.

น้ำหนักทุ่น                          2.2 ปอนด์ หรือ 1 กก.

วัตถุระเบิด                           COMP.B 0.375 ปอนด์

วัสดุห่อหุ้ม                          โลหะสีเขียว

ชนวน                                  ในตัว

การทำงาน                           แรงดึง 4-8 ปอนด์   น้ำหนักกด 14-28 ปอนด์หรือ 6-12 กก.

กระโดดสูง                           1.8 เมตร

รัศมีอันตราย                        17-20 เมตร
มีสะเก็ตระเบิดลูกปลาย







@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

**ที่มาของเนื้อหา       ตำราหลักสูตรสงครามทุ่นระเบิด ร.ร.ทหารช่าง , หลักสูตรตรวจค้นและทำลาย

ของTMAC

**ที่มาของภาพ          CAMEO CANADA