วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2557

3 ธันวาคม วันคนพิการสากล UNITED NATION DECADE OF DISABLED PERSONS




ความเป็นมาของวันคนพิการสากล

           นับตั้งแต่องค์การสหประชาชาติ ประกาศให้ปี พุทธศักราช ๒๕๒๖-๒๕๓๕ เป็นทศวรรษคนพิการแห่งสหประชาชาติ หรือ UNITED NATION DECADE OF DISABLED PERSONS,1983-1992. ยังผลให้ประเทศต่างๆ รวมไปถึงองค์การต่างๆในทุกภูมิภาคทั่วโลก ได้ตื่นตัวในการส่งเสริมฟื้นฟูสมรรถถาพคนพิการอย่างกว้างขวาง มีการติดต่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างประเทศองค์การสมาชิกอย่างเป็นรูปธรรม การเสนอแนะประเทศสมาชิกสหประชาชาติ ให้ใช้ทรัพยากรเพื่อประโยชน์สูงสุง การป้องกันความพิการ การสนองความต้องการของคนพิการ การให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ ในทุกรูปแบบต่อประเทศกำลังพัฒนา ตลอดจนรณรงค์เรื่องสิทธิ และความเท่าเทียมกันในสังคนเพื่อคนพิการ รวมไปถึงมรการจัดกิจกรรมคนพิการ เพื่อวัตถุประสงค์ในการพัฒนา ทักษะการช่วยตัวเอง การเพิ่มพุนสมรรถภาพทางกาย จิตใจ อารมณ์และสังคมของคนพิการ และเสริมสร้างความเข้าใจอันดีร่วมกัน ระหว่างคนพิการและคนปกติ
          ในปีพุทธศักราช ๒๕๓๕ คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งเอเชียและแปซิฟิค หรือ ESCAP ได้จัดให้มีสมัยการประชุมครั้งที่ ๔๘ ขึ้น  ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยที่ประชุมได้มีมติประกาศให้ปีพุทธศักราช ๒๕๓๖-๒๕๔๕ เป็นทศวรรษคนพิการภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิค หรือรู้จักกันในนามสากลทั่วโลกว่า "Asian and Pacific Decade of Disabled Persons, 1993-2002" โดยมีจุดประสงค์หลักในการให้ความช่วยเหลือและส่งเสริมพัฒนาคนพิการในทุกๆ ด้าน ทั่วทุกประเทศในแถบเอเชียและแปซิฟิค ทั้งในด้านการพัฒนาฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ ส่งเสริมการฝึกอบรมอาชีพและจัดหาสถานประกอบการรองรับแรงงานคนพิการ สนับสนุนด้านการศึกษา ตลอดจนผลักดันให้คนพิการมีส่วนร่วมในสังคมอย่างเต็มที่ ซึ่งก็จะช่วยให้คนพิการมีโอกาสและมีความเสมอภาคเท่าเทียมกันกับบุคคลทั่วไปในสังคม

องค์การสหประชาติได้ส่งเสริมคนพิการในด้านต่างๆ มากมายด้วยกัน ตัวอย่างเช่น ส่งเสริมให้คนพิการได้มีโอกาสอยู่ร่วมกับคนในสังคมและมีโอกาสได้รับการศึกษาในด้านต่างๆ เช่นเดียวกับคนปกติ และให้คนพิการมีส่วนร่วมในกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายซึ่งสามารถจำแนกออกมาในด้านต่างๆ อาทิเช่น ในด้านสังคม  คนพิการสามารถอยู่ร่วมกับคนในสังคมต่างๆ ได้สามารถช่วยเหลือตนเองได้  และทำตนไม่ให้เป็นภาระแก่คนในสังคมนั้น  ซึ่งนานาประชาชาติได้มอบ อุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้คนพิการได้ช่วยเหลือตนเอง เช่น การคิดค้นประดิษฐ์หุ่นยนต์สุนัขเพื่อช่วยคนตาบอดในการเดินทาง หรือการประดิษฐ์เครื่องช่วยฟังสำหรับคนหูหนวก เป็นต้น ซึ่งช่วยให้คนพิการเหล่านั้นสามารถช่วยเหลือตนเองได้ รวมทั้งประดิษฐ์ขาเทียมเพื่อคนพิการทางขาอีกด้วย

              นอกจากงานในด้านสังคมแล้ว ในด้านอาชีพก็เช่นกัน นานาประชาชาติได้เล็งเห็นความสำคัญในการประกอบอาชีพของคนพิการด้วย เพื่อให้คนพิการได้นำเงินมาจุนเจือตนเองและครอบครัว จึงได้สนับสนุนคนพิการในด้านต่างๆ เช่น งานหัตถกรรม เป็นต้น ขายล๊อตเตอรี่ พนักงานรับโทรศัพท์ งานช่างต่างๆ เช่น ช่างไม้ ช่างกระจก เป็นต้น ทำให้คนพิการได้มีโอกาสประกอบอาชีพต่างๆ ได้มากขึ้น ส่วนงานที่เกี่ยวกับการศึกษานั้นนานาชาติก็ส่งเสริมได้เช่นเดียวกัน เพื่อให้คนพิการได้นำเอาวิชาความรู้ไปใช้ในด้านการประกอบอาชีพและป้องกันการถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพ ซึ่งได้ให้โอกาสในการศึกษาของคนพิการในด้านต่างๆ เช่น การให้ทุนเกี่ยวกับการศึกษาแก่คนพิการ และการผลิตอุปกรณ์ทางการศึกษาแก่คนพิการต่างๆ เช่น การผลิตเครื่องเรียงสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์และสแกนเนอร์ของคนตาบอด การผลิตลูกคิดสเลตและสไตลัสสำหรับคนตาบอด ทำให้คนตาบอดศึกษาหาความรู้ได้สะดวกขึ้น นอกจากนั้นแล้วยังมีการจัดแปลหนังสือเรียนของคนปกติมาพิมพ์เป็นหนังสือเรียนเป็นตัวอักษรเบลล์แก่คนตาบอดอีกด้วย ทางด้านกีฬาก็เช่นกันนานาประชาชาติก็ได้ส่งเสริมและให้โอกาสเพื่อให้คนพิการได้แสดงความสามารถในด้านกีฬาเช่นกัน ตั้งแต่การแข่งขันกีฬาระดับประเทศ ระดับโลกตามลำดับ ซึ่งนานาประชาชาติได้ให้โอกาสในด้านกีฬาต่างๆ เช่น การจัดงานแข่งขันเฟสปิคเกมส์ การว่ายน้ำคนพิการ วิ่งมาราธอนคนพิการ

 จากการสำรวจทางสถิติขององค์การสหประชาชาติพบว่า กลุ่มประเทศแถบเอเชีย และแปซิฟิคนี้มีจำนวนประชากรที่เป็นบุคคลพิการมากที่สุดในโลก ทั้งนี้สาเหตุส่วนใหญ่เกิดมาจากปัญหาของความยากจน นอกเหนือจากนั้นก็เป็นเพราะสาเหตุของความรุนแรงของภัยพิบัติทางธรรมชาติ อุบัติเหตุและผลของสงคราม และด้วยความพิการทุพพลภาพนี้เองที่เริ่มแพร่มากขึ้นทุกขณะ ทางองค์การสหประชาชาติจึงเร่งตระหนักที่หาหนทางวิธีการแก้ไขป้องกันโดยเร็ว ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะลดจำนวนของผู้พิการลงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ โดยทางคณะกรรมธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิค ก็ได้มีแนวนโยบายที่จะเร่งผลักดันแหนส่งเสริมคนพิการให้อยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมของแต่ละชาติ ตั้งคณะกรรมการประสานงานให้ความร่วมมือช่วยเหลือคนพิการและองค์การต่างๆ ที่จะร่วมมือสร้างชีวิตคนพิการให้ดีขึ้น ทั้งในระดับชาติและระดับสากล ตลอดจนเร่งพัฒนาส่งเสริมให้คนพิการทั้งเด็กและผู้ใหญ่ให้ได้รับการฟื้นฟูบำบัดรักษา การศึกษา การฝึกฝีมือและอาชีพหรือแม้กระทั่งมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม ทั้งทางการกีฬา วัฒนธรรมประเพณีและสิ่งแวดล้อม


เพื่อสร้างกระแสความเข้าใจต่อสิทธิของคนพิการ อันเป็นกลุ่มผู้ด้อยโอกาสที่ถูกละเมิดสิทธิมาอย่างยาวนาน องค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้ ปี 2524 เป็น "ปีคนพิการสากล" ส่งผลให้ทั่วโลกตระหนักถึงศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ของคนพิการ และตื่นตัวในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของคนพิการ รวมถึงสนับสนุนการสร้างเสริมศักยภาพของคนพิการ การเปิดโอกาสและสนับสนุนคนพิการให้สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากทรัพยากร ได้อย่างเท่าเทียมกับคนทั่วไป เพื่อนำไปสู่การดำรงชีวิตด้วยการพึ่งตนเองมากที่สุด


ความหมายของคนพิการ
คนพิการ หมายความว่า บุคคลซึ่งมีความสามารถถูกจำกัดให้ปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวัน และการมีส่วนร่วมทางสังคมได้โดยวิธีการทั่วไป เนื่องจากมีความบกพร่องทางการมองเห็น การได้ยิน การเคลื่อนไหว การสื่อสาร จิตใจ อารมณ์ พฤติกรรม สติปัญญาและการเรียนรู้และมีความต้องการจำเป็นพิเศษ ด้านต่างๆ เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตและมีส่วนร่วมในสังคมได้อย่างบุคคลทั่วไป (ความหมายตาม ประกาศกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2546 ไว้ดังนี้)
ประเภทของความความพิการ
1.1 พิการทางการมองเห็
1.2 พิการทางการได้ยินและสื่อความหมาย
1.3 พิการทางกาย หรือการเคลื่อนไหว
1.4 พิการทางจิตใจหรือพฤติกรรม
1.5 พิการทางสติปัญญาหรือการเรียนรู
1.6 พิการซ้ำซ้อน
 ในปี 2525 องค์การสหประชาชาติ จึงได้สถาปนาให้วันที่ 3 ธันวาคม ของทุกปี เป็น "วันคนพิการสากล" เพื่อรำลึกถึงวันที่ 3 ธันวาคม 2525 ที่สมัชชาใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติรับรองแผนปฏิบัติการโลกว่าด้วยเรื่องคนพิการ (World Programme of Action concerning Disabled Persons) พร้อมทั้งสนับสนุนให้ประเทศต่าง ๆ เฉลิมฉลองวันคนพิการสากลทุกปี เพื่อขับเคลื่อนปฏิบัติการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของคนพิการอย่างต่อเนื่องทั่วโลก โดยเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์ให้เกิดการส่งเสริม และพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการโดยอยู่บนฐานของสิทธิอย่างเป็นรูปธรรม และได้มาตรฐานในระดับสากล อนึ่ง ตั้งแต่ปี 2530 องค์การสหประชาชาติได้กำหนดหัวข้อวันคนพิการในแต่ละปีด้วย เช่น อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิของคนพิการ ศักด์ศรีและความยุติธรรมเพื่อคนทั้งมวล ทุกเรื่องคนพิการต้องมีคนพิการ เป็นต้น

ส่วนคำขวัญของ วันคนพิการสากล ปี 2552 คือ "ทำให้เป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษเป็นเป้าหมายเพื่อคนทุกคน ด้วยการเสริมพลังอำนาจแก่คนพิการ และชุมชนคนพิการทั่วโลก" 

ขอบคุณข้อมูลจาก 

http://www.lib.ru.ac.th/journal/dec/dec03-DisabledDay.html
http://hilight.kapook.com/view/44143


วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

HANDICAP กับประเทศไทย ตอน : พิษภัยของทุ่นระเบิด

...........
โครงการนี้ผมเห็นว่าเป็นโครงการที่ดีมาก ขอขอบคุณ HANDICAP INTERNATIONAL-THAILAND และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน ข้อเสนอแนะของโครงการนี้ ในปัจจุบัน ผมยังไม่เห็นว่ามีหน่วยงานใดนำมาสานต่อเลย แม้กระทั่ง TMAC เอง โดยเฉพาะเรื่อง "การจัดทำหลักสูตรท้องถิ่นเรื่องการป้องกันภัยจากทุ่นระเบิด" คนเก่าๆ เล่าให้ผมฟังว่าองค์การแฮนดิแคปฯ นี้ ได้จัดทำสื่อเพื่อเผยแพร่ความรู้เรื่องนี้เป็นจำนวนมาก ผมกำลังค้นหาอยู่ว่าปัจจุบัน สื่อเหล่านี้อยู่ที่ไหนบ้าง


วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

กรณีสมุดประจำตัวคนพิการชำรุด/เสียหาย ภาพตัวอย่างสมุดประจำตัวควรทำอย่างไร ? ? ?




คำถาม: กรณีสมุดประจำตัวคนพิการชำรุด/เสียหาย ภาพตัวอย่างสมุดประจำตัวควรทำอย่างไร ?

คำตอบ : หากสมุดประจำตัวคนพิการชำรุดก่อนวันหมดอายุ คนพิการสามารถยื่นคำร้องขอมีสมุดประจำตัวคนพิการเล่มใหม่แทนเล่มเดิมได้ หากสมุดประจำตัวคนพิการสูญหาย ให้แจ้งความที่สถานีตำรวจและนำใบแจ้งความยื่นขอมีสมุดประจำตัวคนพิการเล่ม ใหม่พร้อมเอกสารหลักฐาน


คำถาม  : การจดทะเบียนคนพิการแทนควรทำอย่างไร?
คำตอบ  :
หากคนพิการไม่สามารถไปจดทะเบียนได้ด้วยตน เอง เนื่องจากมีสภาพความพิการมาก มีความยากลำบากในการเดินทาง เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถหรือไร้ความสามารถ ให้มีผู้ อื่นมาจดทะเบียนแทนได้ ทั้งนี้ผู้จดทะเบียนแทนต้องนำเอกสารมาด้วย ดังนี้
  1. เอกสารหลักฐานของคนพิการ
  2. สำเนา บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวข้าราชการ หรือบัตรประจำตัวต่างด้าว หรือเอกสารอื่นที่ทางราชการออกให้ของผู้จดทะเบียนแทนพร้อมทั้งต้นฉบับตัวจริง
  3. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้จดทะเบียนแทน พร้อมทั้งต้นฉบับตัวจริง
  4. ใบมอบอำนาจจากคนพิการหรือหนังสือรับรองจากทางราชการ
  5. คำสั่งศาลในกรณีที่ศาลสั่งให้เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถหรือไร้ความสามารถ หรือการจัดตั้งผู้ปกครองกรณีผู้เยาว์ไม่มีบิดามารดา หรือบิดามารดาถูกถอนอำนาจปกครอง
คำถาม  :  การต่ออายุสมุดประจำตัวคนพิการ ควรทำอย่างไร?
คำตอบ :
เพื่อให้คนพิการได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเมื่อสมุดประจำตัวคนพิการหมดอายุ คนพิการจะต้องดำเนินการต่ออายุสมุดประจำตัวคนพิการซึ่งหลักฐานในการต่ออายุ สมุดประจำตัวคนพิการ ให้คนพิการนำสมุดประจำตัวคนพิการเล่มเดิมที่หมดอายุพร้อมสำเนาทะเบียนบ้าน มาขอรับบริการต่อสมุด โดยเจ้าหน้าที่ผู้จดทะเบียนฯ จะตรวจสอบหลักฐานจากทะเบียนคนพิการของจังหวัด แล้วจึงดำเนินการต่ออายุสมุดประจำตัวคนพิการในสมุดเล่มเดิมให้แก่คนพิการ โดยไม่ต้องใช้เอกสารรับรองความพิการฉบับใหม่ ยกเว้นแต่ลักษณะของความพิการที่ระบุไว้ในเล่มเดิมไม่ชัดเจน หรือสภาพความพิการเปลี่ยนแปลงไป เจ้าหน้าที่ผู้จดทะเบียนฯ จะให้คนพิการไปขอรับเอกสาร รับรองความพิการฉบับใหม่เพื่อใช้ประกอบการต่ออายุสมุดประจำตัวคนพิการ สมุดประจำตัวคนพิการจะมีอายุ 5 ปี นับจากวันออกสมุด

วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

พบระเบิดฟอสฟอรัสที่ อ.แม่สอด จ.ตาก


พบระเบิดฟอสฟอรัส 3 ลูก สมัยกะเหรี่ยงรบพม่า ที่ชายแดนแม่สอด จ.ตาก




เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2557 ชาวบ้านห้วยกะโหลก พบวัตถุคล้ายระเบิดจำนวน 3 ลูกในไร่ ข้างถนนเส้นทางสายบ้านแม่ปะใต้ กับ บ้านห้วยกะโหลก หมู่ 4 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก หลังโรงงานอุตสาหกรรมผลิตเซรามิค แห่งหนึ่ง ติดริมแม่น้ำเมยชายแดนไทย-พม่า 

เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด จากทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 (ฉก.ร.4 แม่สอด) อ.แม่สอด จ.ตาก จึงส่ง จนท.ทหารชุด EOD หรือ ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ประจำตำบลแม่ปะ และฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด เข้าไปควบคุมพื้นที่ โดยพบว่า วัตถุคล้ายระเบิดดังกล่าว มีทั้งหมด 3 ลูก เป็นระเบิดควันมีฟอสฟอรัส ใช้ในการฝึกทางทหาร และใช้ปฏิบัติการทางทหาร จึงเก็บกู้ ก่อนนำไปทำลายทิ้งที่บริเวณท้ายไร่ 

พื้นที่แห่งนี้อยู่ตรงข้ามบริเวณค่ายคอมูร่า 101 ซึ่งเป็นอดีตฐานที่มั่นสำคัญแห่งหนึ่งของค่ายทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ(KNU) ในฝั่งพม่า พื้นที่ชายแดนจุดนี้เคยมีการสู้รบกันอย่างรุนแรงระหว่างทหารรัฐบาลพม่ากับกองกำลัง KNU ระหว่างปี 2528-2538 กระทั่งทหารรัฐบาลพม่าโจมตีฐาน คอมูร่าแตก เมื่อต้นปี 2538 แต่ยังคงมีลูกระเบิดที่ทั้ง 2 ฝ่ายมีการยิงพลัดตกมายังฝั่งไทยจำนวนหลายลูก สำหรับลูกระเบิดดังกล่าวนั้น คาดว่า เป็นของฝ่ายทหารชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยง KNU ที่ลักลอบเข้ามาเขตไทย ในสมัยการสู้รบระหว่างทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU กับทหารรัฐบาลพม่า เป็นระเบิดที่ยังสามารถใช้งานได้ แม้ว่าจะฝังอยู่ในดินมาเป็นระยะเวลานานก็ตาม 
















***********************
ที่มาข่าวและภาพ : 
ข่าวภูมิภาค, INN (http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=579179)

วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

สิทธิประโยชน์สำหรับผู้พิการ


สิทธิประโยชน์สำหรับผู้พิการ

     สิทธิประโยชน์สำหรับคนพิการ คนพิการที่จดทะเบียนคนพิการตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๐ มีสิทธิได้รับบริการต่างๆ ดังนี้
๑. การสงเคราะห์และฟื้นฟูสมรรถภาพด้านร่างกาย ด้านการศึกษา ด้านอาชีพ และด้านสังคมในสถาบัน
ปัจจุบันมีสถานสงเคราะห์ฯ จำนวน ๑๑ แห่ง ในจังหวัดนนทบุรี ราชบุรี สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ปทุมธานี และอุบลราชธานี

๒. การจัดบริการในศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการในชุมชน
ให้บริการด้านสุขภาพ รณรงค์ป้องกันความพิการ การฟื้นฟูอาชีพ และการฟื้นฟูทางสังคม โดยหน่วยงานให้บริการคนพิการในพื้นที่ ส่งเสริมสนับสนุนให้มีการจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการในชุมชน ในปีต่อไปโอนให้องค์กรปกครองรับไปดำเนินการ ขณะนี้มีอยู่ทั่วประเทศ

๓. การฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพคนพิการ ดำเนินการทั้ง
     ๓.๑ ในสถาบัน ซึ่งมีศูนย์ฟื้นฟูอาชีพคนพิการ ๘ แห่ง ในจังหวัดสมุทรปราการ ขอนแก่น เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช ลพบุรี หนองคาย และอุบลราชธานี มี ๑๕ สาขาอาชีพ มีหลักสูตรระยะ ๓ เดือน ๖ เดือน ๙ เดือน ๑๐ เดือน ๑ ปี และหลักสูตรระยะสั้น ๓๐ ชั่วโมง
     ๓.๒ ในชุมชนจัดวิทยากรให้ตามคำร้องขอของชุมชนและเปิดฝึกอบรมในศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการในชุมชน
     ๓.๓ ศูนย์พัฒนาอีพคนพิการ (โรงงานในอารักษ์) จังหวัดนนทบุรี รับคนพิการที่มีความรู้และมีความประสงค์ในการประกอบอาชีพ มีรายได้ ให้บริการที่พักและอื่นๆฟรี สำหรับรายได้ของคนพิการได้ตามความสามารถของคนพิการแต่ละคน

๔. การให้การสงเคราะห์ครอบครัว

๕. การให้การสงเคราะห์กายอุปกรณ์และเครื่องช่วยความพิการ

๖. การจัดหางานให้ทำหรือส่งเสริมสนับสนุนการประกอบอาชีพอิสระ

๗. ให้บริการเด็กออทิสติก ๒ หน่วย คือ
     ๗.๑ ศูนย์บริการบุคคลออทิสติก จังหวัดขอนแก่น
     ๗.๒ ศูนย์บริการบุคคลออทิสติก จังหวัดนนทบุรี

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ
โทรศัพท์ ๐ ๒๒๘๒ ๔๒๐๖ , ๐ ๒๖๕๙ ๖๒๖๐ – ๖๒
สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ศูนย์พัฒนาสังคมจังหวัด
และหน่วยงานให้บริการคนพิการในพื้นที่

วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เชิ้บ เชิ้บ ! ! เล่นดอกไม้ไฟให้ปลอดภัย

ขอบคุณภาพจาก  :   http://hilight.kapook.com/view/77921
 "วันเพ็ญเดือนสิบสอง นํ้าคะนองเต็มตลิ่ง เราทั้งหลายชายหญิง สนุกกันจริงวันลอยกระทง"  วันลอยกระทงปีนี้ จะไปลอยที่ไหนดีหนอ?...

          เทศกาลลอยกระทงเป็นประเพณีและวัฒนธรรมไทยที่มีมานาน จัดขึ้นด้วยความสนุกสนาน และบรรยากาศที่อบอุ่น แต่ในปัจจุบันความสนุกสนานมักมาพร้อมกับความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการเล่นประทัด พลุ ดอกไม้ไฟ

          ประทัด พลุ ดอกไม้ไฟ สิ่งเหล่านี้คนมักนิยมเล่นในช่วงเทศกาลลอยกระทงเพราะเป็นการเพิ่มสีสันในกับงาน ซึ่งในส่วนของผู้ประกอบธุรกิจเอง ต่างคิดค้นและพัฒนาให้สินค้าของตน ตรงกับความต้องการของผู้เล่น บางคนชอบให้หลากหลายด้วยสีสัน เสียงต้องดังสะท้านฟ้า สะท้านดิน หรือ ต้องมีแรงระเบิดที่รุนแรง

          ในช่วงเทศกาลวันลอยกระทงของทุกปี มักเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ จากการเล่นประทัด พลุ ดอกไม้ไฟ จำนวนมาก ซึ่งเป็นการกระทำของบุคคลบางกลุ่ม ที่คึกคะนองเกินความพอดี และยังมีการดัดแปลงพลุ หรือ ดอกไม้ไฟให้เกิดเสียงดังและมีอานุภาพการระเบิดที่รุนแรง จนเกิดประกายไฟลุกลามไหม้บ้านเรือน ซึ่งนอกจากจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 แล้ว หากเล่นจนเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน จะมีความผิดทั้งทางคดีแพ่งและคดีอาญาอีกด้วย

          ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยและไม่เป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ใคร่ขอแนะนำผู้บริโภค ควรตระหนักถึงความจำเป็นให้มากที่สุด หรือ หากต้องการความสนุกสนานจากการเล่น ควรเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพและต้องแน่ใจได้ว่าสินค้านั้น มีวิธีการเล่นที่ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อตนเองและผู้อื่น ที่สำคัญผู้บริโภคต้องศึกษารายละเอียดวิธีการเล่นให้เข้าใจ และควรเล่นด้วยความระมัดระวังไม่ควรประมาทในการเล่น

          นอกจากนี้ การจัดงานตามสถานที่ต่าง ๆ ที่ผู้จัดมักนำลูกโป่งสวรรค์มาประดับตกแต่งให้สวยงาม ผู้บริโภคต้องระมัดระวังให้มาก เนื่องจาก ลูกโป่งที่บรรจุก๊าซไฮโดเจน หากกระทบกับความร้อนหรือเปลวไฟ จะทำให้ลูกโป่งระเบิด เกิดไฟลุกไหม้ ตามที่เคยปรากฏเป็นข่าว สคบ. ได้มีประกาศให้แสดงคำเตือน "ห้ามเข้าใกล้เปลวไปหรือความร้อน" ผนึกติดกับตัวลูกโป่ง แต่หากจำเป็นต้องใช้ ควรเลือกใช้ลูกโป่งที่บรรจุก๊าซฮีเลียม ซึ่งเป็นกาซเฉื่อยแม้มีราคาแพงแต่ไม่ติดไฟและมีความปลอดภัยสูง

          ทั้งนี้ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น และ เป็นการรักษาวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองควรใส่ใจและค่อยให้คำแนะนำบุตรหลานถึงอันตรายและความสูญเสียที่จะตามมา จากการเล่นประทัด พลุ ดอกไม้ไฟ และลูกโป่งสวรรค์ เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์

วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ป้ายแจ้งเตือน

ขอบคุณภาพจาก : หน่วยเฉพาะกิจกรมทหาราบที่ ๑๒ รักษาพระองค์

            ปกติตามบริเวณแนวชายแดน  มักพบเห็นป้ายแจ้งเตือนที่เป็นทางการ หน่วยงานทหารจะเป็นผู้นำมาติดเพื่อเป็นการแจ้งเตือนให้ประชาชนรู้ถึงพื้นที่อันตราย ที่ยังคงมีความเสี่ยงที่จะเดินสัญจรไปมา และเดินทางเข้าไปหาของป่า อันเป็นสาเหตุของความสูญเสียอวัยวะ  ทรัพย์สิน และเสียชีวิตในที่สุด 

นอกจากจะมีป้ายแจ้งเตือนจากหน่วยงานทหารแล้ว ยังมีหน่วยงานพลเรือน เอกชน ที่มีความปราถนาดีประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้พี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดน ได้ทราบถึงอันตรายของพื้นที่ที่ยังคงมีกับระเบิดหลงเหลืออยู่

" เพื่อลดการสูญเสียอวัยวะและชีวิต ไม่ควรเสี่ยงเดินไปในสถานที่ ที่มีป้ายแจ้งเตือน นะคะ"

วันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ข้อห้าม ! ! ! เมื่อพบวัตถุต้องสงสัย "คล้ายระเบิด"

ขอบคุณภาพจาก  :  http://pantip.com

ย้ำเตือนกันเพื่อไม่เกิดการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน เมื่อเจอวัตถุต้องสงสัยคล้ายวัตถุระเบิด ให้สงสัยได้เลยว่าเป็นระเบิด ประชาชาที่อาศัยในพื้นที่้เสี่ยง หรือตามแนวตะเข็บชายแดนยิ่งต้องฝึกเป็นคนช่างสงสัย เพราะความเสี่ยงจะมีมากว่าพิ้นที่ในเมือง ส่วนประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองก็ต้องระมัดระวังเช่นกัน เพราะจากการเฝ้าระวังสังเกตุ จะมีผู้พบเห็นประชาชนพบวัตถุระเบิด และอาวุธสงครามอยู่เป็นประจำ  

วันนี้จึงขอเสนอข้อปฏิบัติ เมื่อพบวัตถุระเบิดควรจะปฏิบัติตนเช่นไร

ข้อห้ามกระทำต่อวัตถุระเบิดมี 9 -ข้อดังนี้

1. ห้ามจับ  คือการ คือการไม่แตะต้องไม่สัมผัส 

2. ห้ามเล่น คือไม่นำวัตถุระเบิดไปเล่นในลักษณะต่าง ๆ 

3. ห้ามตีหรือเคาะ คือไม่นำวัตถุอื่นมาเคาะเล่น หรือไม่นำวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิดไปเคาะกับวัตถุอื่น

4. ห้ามโยนหรือขว้าง คือไม่เอาวัตถุระเบิดไปโยนหรือขว้างในลักษณะต่าง ๆ

5. ห้ามเคลื่อนย้าย  คือ การไม่เคลื่อนย้ายไปจากที่เดิม ไมว่าจะเป็นการยกหรือหาม เพราะระเบิดได้ใส่ชนวนกันเขยื้อนเพื่อป้องกันกันเก็บกู้ของฝ่ายตรงข้าม

6. ห้ามมีหรือสะสม เพราะมีความผิดตามกฏหมายอาญา

7.ห้ามนำระเบิดไปทำการระเบิดปลา เพราะเป็นอาวุธที่ร้ายแรงไม่เพียงแต่จะทำร้ายปลาอย่างเดียวเท่านั้น แต่สามารถทำร้ายชีวิตของผู้ใช้ระเบิดและผู้อื่นที่อยู่บริเวณใกล้เคียงนั้นด้วย

8. ห้ามนำวัตถุระเบิดไประเบิดเพื่อขุดหลุม เพราะเป็นอันตรายร้ายแรงต่อผู้ใช้วัตถุระเบิดนั้น รวมถึงคนที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวนั้นด้วย

9. ห้ามเพ่งดูหรือมองวัตถุระเบิดโดยตรง มื่อท่านเกิดสงสัยซอกมุมหรือรูต่าง ๆ ภายในระเบิด เพราะขณะที่เราเพ่งดูระเบิดนั้น มันอาจจะใกล้เวลาทำงานอยู่แล้ว หากเราสัมผัสเข้าใกล้ ระเบิดเกิดทำงานทำให้ผู้ดูเกิดหูหนวกตาบอดได้

เพื่อไม่เป็นการประมาท และเกิดการสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของท่าน ขอประชาสัมพันธ์ ให้เพิ่มความระวัง และปฏิบัติตัวตามข้อห้ามนะคะ


วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ระวัง 6 โรคที่มากับภัยหนาว

ข้อมูลภาพจากกระปุกดอทคอม



    กรมควบคุมโรค ได้เตือนเป็นพิเศษสำหรับกลุ่มประชาชนที่มีความเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอด โรคโลหิตจาง เนื่องจากมีระดับภูมิต้านทานโรคต่ำอยู่แล้ว โดยขอให้รักษาความอบอุ่นร่างกาย ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบทั้ง 5 หมู่ ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มมึนเมา ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ล้างมือบ่อย ๆ เพื่อจะได้มีร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยด้วยโรคร้ายที่มักมาพร้อมกับหน้าหนาวนั่นเอง



















วันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2557

พบระเบิดใช้แล้ว 22 ลูก ในป่าละเมาะ




ขอบคุณภาพจากเนชั่น ทีวี


เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 57 ชาวบ้านคู ต.คำคู อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น แจ้งเจ้าหน้าที่ พบระเบิดกว่า 20 ลูก ขณะถางป่าละเมาริมแปลงนา ขอให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบ เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย หลังได้รับแจ้ง ร.ต.ต.วิมล โนนทะเสน เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น หรือ อีโอดี พร้อมหน่วยเก็บกู้ลงพื้นที่พบเป็นระเบิดฝึกทิ้ง สีฟ้า ขนาด 25 ปอนด์ ของกองทัพอากาศ กระจายอยู่ตามพื้น และในกระสอบปุ๋ยรวม 22 ลูกโดยระเบิดทั้งหมดถูกใช้งานแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่อีโอดีจึงประสานกับ ตำรวจ สภ.ซำสูง ให้แจ้งกับประชาชนในพื้นที่ หากพบเห็นวัตถุระเบิดในลักษณะนี้ให้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ 
ร.ต.ต.วิมล กล่าวว่า สำหรับระเบิดที่พบนั้น คาดว่า จะมีคนไปเก็บมาจากสนามฝึกซ้อมทั้งระเบิดในฝูงบิน 237 อ.น้ำพอง ซึ่งเป็นอำเภอใกล้เคียงอยุ่ห่างกันประมาณ 12 กิโลเมตร เพื่อนำมาขายให้กับร้านรับซื้อของเก่า แต่คาดว่าร้านไม่รับซื้อเพราะเกรงว่าจะมีอันตราย และมีความผิด จึงนำมาทิ้ง

จากเหตุการณ์ดังกล่าวจะเห็นว่า ประชาชนขาดความตระหนักและภัยอันตรายจากวัตถุระเบิด เพราะฉะนั้นเมื่อเราพบเห็นวัตถุต้องสงสัยคล้ายวัตถุุระเบิดให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่
















วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ไชโย นปท.ได้รับเครื่องตรวจจับโลหะ ไว้ใช้แล้ว















วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2557

หนีน้ำหลาก มากระเบิด ! ! !

บริเวณพื้นที่อันตรายที่ยังคงมีวัตถุระเบิดปนเปื้อน
                                         ขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/COED.TMAC
มวลน้ำขนาดใหญ่ ควาามเร็วและแรง สามารถนำพาทุ่นระเบิดตกค้างมากับกระแสน้ำได้
ขอบคุณภาพจาก  : https://www.facebook.com/COED.TMAC

เจ้าหน้าที่จากหน่วยปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมที่ ๒ นปท./ทร.
ขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/COED.TMAC
สภาพภูมิประเทศในฤดูน้ำหลาก มีความเป็นไปได้สูงที่วัตถุระเบิดเคลื่อนที่
ขอบคุณภาพจาก  : https://www.facebook.com/COED.TMAC


ช่วงนี้้เป็นฤดูฝนของประเทศไทย ทำให้มีปริมาณน้ำฝนสะสมเป็นจำนวนมากตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วทุกภาค ปริมาณน้ำจำนวนมากเมื่อรวมกันปริมาณมาก ๆ ทำให้มวลของน้ำเคลื่อนตัวเร็ว และแรงสามารถทำให้หน้าดินเปิด เหตุการณ์เช่นนี้เคยทำให้พัดพาสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ใต้พื้นดินตามไปด้วย รวมถึงพื้นที่ใดที่ยังคงมีวัตถุระเบิดปนเปื้อนอยู่ ก็สามารถพัดพามากับกระแสน้ำได้เช่นกัน

จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนที่ได้รับการแจ้งเตือนจากเจ้าหน้าว่าพื้นที่ที่ท่านพักอาศัยอยู่ มีวัตถุระเบิดหลงเหลือและรอเจ้าหน้าที่เข้าไปทำการเก็บกู้  หรือประชาที่อยู่ปลายน้ำ ให้เพิ่มความระวังจากการพัดพาจากระแสน้ำหลาก หากท่านใดพบเห็นวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ให้สงสัยไว้ก่อนว่าเป็นระเบิด
อย่าได้สัมผัสโดยตรง หรือใช้ไม้เขี่ยโดยเด็ดขาด

รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ที่อยู่จุดเกิดเหตุให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้ทำการเก็บกู้ และทำลายต่อไป อย่าลืมนะคะ


" งด  เสี่ยง   เลี่ยง   จับ "

วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2557

ลอตเตอรี่ ค่ะ ลอตเตอรี่ สำหรับผู้พิการ !

ขอบคุณข้อมูลจาก VOICE TV และ จส. 100 

ข่าวดีสำหรับผู้พิการอีกครั้งค่ะ ผู้พิการทั่วประเทศมีโอกาสดีเนื่องจาก สำนักงานสลากกินแบ่งบัฐบาล ได้จัดสรรโควต้าให้กับบุคคลทั่วไป และผู้พิการ ขอจดทะเบียนเพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล
ผู้พิการท่านใดทีสนใจ แจ้งความประสงค์ระหว่างวันที่ 1 - 5 กันยายน 2557 นี้

ส่วนกลาง  สามารถติดต่อได้ที่

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล  สนามบินน้ำ โทรศัพท์  call center  02 345 1466 หรือ www.glo.or.th

ส่วนท้องถิ่น  สามารถติดต่อได้ที่

ศาลาประชาคม  องค์การบริหารส่วนจังหวัด อำเภอเมือง จังหวัดเลย

เอกสารที่ท่านต้องเตรียมเพื่อประกอบคำขอ

1  สำเนาบัตรประชาชน หรือ สำเนาบัตรประจำตัวผู้พิการ
2  สำเนาทะเบียนบ้าน
3  แผนที่แสดงสถานที่จำหน่าย







วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557

อ๊ะ อ๊ะ อย่าประมาท ! ! !


เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 16 ส.ค. 2557 ร.ต.ท.ชัยรัตน์ จันทร์อนันต์ พงส.สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ว่า เกิดเหตุระเบิดที่บริเวณข้างปั๊มน้ำมันพีที ของบริษัท ปิโตรเลียมคอร์ปอเรชั่น จำกัด สาขา 686 บ้านใต้ ริมถนนแสงชูโต ต.บ้านใต้ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รถกู้ชีพมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ และศูนย์กู้ชีพ รพ.พหลฯ รุดไปตรวจสอบ

เอื้อเฟื้อภาพโดย http://www.thairath.co.th/

ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเด็กปั๊ม 2 ราย ทราบชื่อ นายเกียรติศักดิ์ จันทร์แดง อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 259 หมู่ 7 ต.วังตะคร้อ อ.ด่านลานหอย จ.สุโขทัย ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บที่มือขวา ขาซ้ายและขาขวา ตามลำตัวมีตะปูฝังอยู่หลายดอก จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่า เด็กปั้มคนที่พบเห็น คิดว่าเป็นก้อนหิน จึงโยนลงพื้นจึงเกิดระเบิดขึ้น


เอื้อเฟื้อภาพโดย http://www.thairath.co.th/

 ลักษณะของระเบิดปิงปองและอานุภาพการทำลาย แรงระเบิดทำให้อวัยวะฉีกขาดได้ แต่ไม่อันตรายถึงชีวิต

เอื้อเฟื้อภาพโดย http://www.thairath.co.th/

ขณะนี้พิ้นที่อันตรายจากวัตุปนเปื้อนระเบิด ไม่ใช่เฉพาะแต่แนวตะเข็บชายแดนที่มีการสู้รบเท่านั้น เนื่องจากสถานการณ์ในประเทศไทยเปลี่ยนจากความขัดแย้งทางความคิด ได้มีการนำระเบิดชนิดต่าง ๆ ออกมาใช้อย่างแพร่หลายตามข่าวที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้และยังคงเหลือตกค้างอยู่เป็นจำนวนมากตามสถานที่ต่าง ๆ และเมื่อมีมาตรการตรวจจับและกวาดล้างจากเจ้าหน้าที่

ข้อแนะนำเมื่อท่านพบเห็นวัตถุคล้ายลูกปิงปองตามข่าวที่นำเสนอ ให้สงสัยไว้ก่อนว่าเป็นวัตถุระเบิดอันตราย ห้ามจับ ห้ามสัมผัสโดยตรง เพื่อให้เป็นการปลอดภัยจากระเบิด รีบแจ้งเจ้าหน้าเข้ามาทำการเก็บกู้ และนำไปทำลายต่อไป

ข้อเตือนใจเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน "หยุด  เสี่ยง เลี่ยง จับ"   นะคะ



วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ระเบิด 'เอ็ม 26' โผล่หน้าสนามกีฬากลางอุดรฯ

เอื้อเฟื้อภาพโดย : http://www.thairath.co.th/content/441810

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท.ฉลองรัฐ แก้วหวาย หัวหน้าหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) ภ.จ.อุดรธานี รับแจ้งเหตุ พบวัตถุคล้ายระเบิดวางทิ้งไว้ที่ริมรั้วสนามกีฬาเวสสุวรรณใกล้ ธ.กรุงศรีอยุธยา ถนนนิตโย เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบเป็นระเบิดลูกเกลี้ยงแบบขว้าง เอ็ม 26 มีเศษดินห่อหุ้ม วางอยู่บนพื้นนอกรั้ว จากการตรวจสอบไม่มีสลักและกระเดื่องสภาพพร้อมใช้งาน จึงเก็บกู้ใส่กระบะทราย เพื่อนำไปทำลาย

มาดูกันชัด ๆ อีกทีว่าหน้าตาของ M - 26 


M - 26 หรือเรียกว่า "ลูกเกลี้ยง" อันเนื่องมาจากลักษณะผิว ลูกเกลี้ยงมี 2 แบบ คือ
ลข. 88 บ 26 มีชนวนถ่วงเวลา  4-5- นาที 

รัศมีการทำลายล้าง 15 เมตร สามารถทำให้ขาขาดได้ทันทีถ้าหากว่าเดินไปเหยียบ และทำให้คนรอบข้างได้รับบาดเจ็บอีกด้วย

จากภาพข่าว : ถ้าพบเห็นวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด อย่าได้สัมผัสโดยตรงด้วยอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายนะคะ เพราะเสี่ยงอันตรายถึงเสียชีวิต เจ้าหน้าที่สัมผัสโดยตรงจามภาพนั้น ได้ผ่านการอบรการทำลายวัตถุระเบิดแล้วจึงสามารถสัมผัสหลังจากมั่นใจว่า ได้ถอดสลักการทำงานของระเบิดแล้ว

วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2557

สวย สวย อย่าลอง (จับ) ! ! !

                วันนี้มีข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งให้ทราบหลังจากหน่วย EOD จังหวัด พิษณุโลกได้รับแจ้งจากชาวบ้านและนักท่องเที่ยวว่าพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายวัตถุระเบิด จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร และ เจ้าหน้าที่อุทยานเข้าไปตรวจสอบ บริเวณที่พบวัตถุต้องสงสัยคือบริเวณ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อ.นครไทย จ.พิษณุโลก  บริเวณดังกล่าว เป็นลักษณะถ้ำ และถ้ำนี้เคยเป็นถ้ำของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย เคยใช้เป็นสถานีส่งคลื่นวิทยุของพรรคคอมมิวนิสต์ สมัยการต่อสู้ขัดแย้งทางความคิดระหว่าพรรคคอมมิวนิสต์ และรัฐบาลไทย ช่วงปี พ.ศ. 2511 - 2525




ระเบิด BLU-24 ผลิตจากประเทศสหรัฐอเมริกา และพบเห็นที่บริเวณอุทยานแห่งชาติ
ภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก

ระเบิด BLU-24 เอื้อเฟื้อภาพโดย : https://www.google.co.th/







แบบจำลองระเบิด BLU -24 แสดงองค์ประกอบภายใน
เอื้อเฟื้อภาพโดย :  https://www.google.co.th
วัตถุต้องสงสัยดังกล่าวที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบ เป็นวัตถุระเบิดที่ตกค้างในสมัยสงครามระหว่างรัฐบาลกับพรรคคอมมิวนิสต์ เป็นระเบิดชนิดอากาศ BLU-24 ( CBU-24 cluster bomb) และสภาพพร้อมทำงาน จากเหตุการณ์ดังกล่าวทางเจ้าหน้าคาดว่าจะมีวัตถุต้องสงสัยอยู่อีก จึงขอแจ้งเตือนและประสัมพันธ์ให้ประชนและนักท่องเที่ยว ใช้ความระมัดระวังในการเดินทางเข้าพื้นที่ดังกล่าว หากท่านสงสัยหรือวัตถุต้องสงสัย อย่าสัมผัสโดยตรงด้วยมือหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย รีบทำเครื่องหมายที่พบเห็นวัตถุระเบิด แล้วรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที