วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

พ่อเฒ่าทำเสียว หิ้วระเบิดกลับบ้าน โชคดียังไม่ตูม

เอื้อเฟื้อภาพโดย : ไทยรัฐออนไลน์

เมื่อ วันที่ 21 กรกฏาคม  2557  เวลาประมาณ 12.40 มีรายงานจาก พ.ต.ท. สุพจน์ สุวรรณ พนักงานสอบสวนเวร สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งว่ามีชาวบ้านไปพบระเบิดสังหารบุคคล ถูกทิ้งไว้ที่เชิงสะพานคลองชลประทาน หน้าวัดประทุมบุปผาราม บ้านทุ่งหัวช้างใหญ่ หมู่ 7 ต.ริมเหนือ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เมื่อนำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วย EOD เข้าตรวจสอบพบเป็นระเบิดสังหารบุคคลชนิด  M-67   เจ้าหน้าจึงได้กันชาวบ้านออกไปเพื่อความปลอดภัย

มาดูหน้าตาชัดของ M-67กันค่ะ





ชาวบ้านรู้กันดีและเรียกติดปากว่า "ลูกส้ม" ทางการเรียกว่า ลข.88  บ 67  ระเบิดรุ่นนี้ใช้เปลือกนอกเป็นสะเก็ด  เวลาระเบิดสะเก็ดจะแตกออกกเป็นรูปไข่ปลา  อำนาจการทำลายล้างในรัศมีฉกรรจ์  จากจุดระเบิด 10 - 15 เมตร  นับเป็นความโชคดีของชาวบ้านที่ระเบิดที่พบยังไม่ระบิด

ข้อสังเกตจากภาพข่าว นับเป็นความโชคดีของชาวบ้านท่านนั้นที่ระเบิดยังไม่พร้อมทำงาน การสัมผัสวัตถุระเบิดโดยตรงตามภาพ เป็นการเสี่ยงค่อนข้างสูงที่จะทำให้วัตถุระเบิดทำงาน  ข้อแนะนำเบื้องต้น

ข้อแรก  ทำตัวให้เป็นคนขี้สงสัยไว้ก่อน พบเห็นวัตถุคล้ายระเบิด หรือเห็นภาชนะบรรจุระเบิด อย่าใจกล้าเดินเข้าไปสัมผัสระเบิด คิดอะไรไม่ออกบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ใกล้ที่สุด หรือท่านใดที่อยู่ต่างจังหวัด ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทหาร หรือ ตชด. เพื่อเข้ามาทำการพิสูจน์และเก็บกู้ทำลายต่อไป

ข้อสอง  ให้ทำจุดบอกตำแหน่งที่พบวัตถุระเบิดให้ชัดเจนเพื่อจำตำแหน่งที่พบเห็น เพราะการพบเห็นวัตถระเบิดทำให้คนเราตกใจและลืมชั่วขณะหนึ่ง ดังนั้นก่อนจะเข้าแจ้งเจ้าหน้าที่ ควรทำเครื่องหมายชัดเจนจุดพบเห็นระเบิด



วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

พลุระเบิดยังขนาดนี้ ถ้าเป็นวัตถุระเบิดล่ะ????

มื่อวันที่ 12 ก.ค.57 ที่ผ่านมา มีเหตุพลุระเบิดที่ร้านสังฆภัณฑ์ อ.รุ่งโรจน์ ที่ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง

จากการสำรวจของเจ้าหน้าที่ EOD และ เจ้าหน้าที่โยธา พบจุดระเบิดกลางร้านสังฆภัณฑ์ มีขนาดความ

กว้าง 1 เมตร 10 เซนติเมตร ลีก 10 เซนติเมตร
ขอบคุณภาพจาก : http://news.sanook.com/




และแรงระเบิดของพลุ ทำให้อาคารได้รับความเสียหายจากแรงอัดของพลุ จากเหตุการณ์ดังกล่าว

เป็นอุทาหรณ์สอนใจเป็นอย่างดีถึงภัยอันตรายจากแรงอัด แรงกระแทก จากวัตถุระเบิดที่สามารถทำลาย

ชีวิตและทำให้สูญเสียอวัยวะได้ พลุและวัตถุไฟไวยังสามารถทำให้อาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหาย

ขนาดนี้ นับประสาอะไรกับอวัยวะร่างกายของมนุษย์จะสามารถต้านทานแรงอัดของวัตถุอันตรายได้

หากท่านผู้ใดพบเห็นวัตถุต้องสงสัยคล้ายวัตถุระเบิด ให้สงสัยไว้ก่อนว่าวัตถุนั้นเป็นวัตถุอันตราย ให้รีบ

แจ้งเจ้าหน้าตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทหาร เพื่อจะได้ทำการเก็บกู้และทำลายต่อไป


วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ผงะ ! ! ! เจอระเบิดสงครามโลกอีก 3 ลูก

เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 3 ก.ค.57 ร้อยตำรวจตรีพรทวี ชินนา พนักงานสอบสวน สภ.บางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ได้รับแจ้งจากนายสิทธิพร ทองเชื้อ กำนันตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที ว่าพบระเบิดในพื้นที่ของให้ไปตรวจสอบ จึงพร้อมด้วยพลตำรวจตรีสมพงษ์ เตชะสมบูรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสงคราม,พันเอกเกรียงเดช แย้มโอษฐ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสมุทรสงคราม, พันตำรวจเอกวีระยศ ชื่นกลิ่นธูปศิริ ผู้กำกับการ สภ.บางคนที และหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD ภูธรจังหวัดสมุทรสงคราม ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบกระสุนปืนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 นิ้ว ยาว 12 นิ้ว ถูกเจ้าหน้าที่นำมาวางไว้บนถนน ในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลบางนกแขวก โดบมีชาวบ้านมามุงดูกันจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องนำยางรถยนต์มาครอบไว้และกันประชาชนให้อยู่ห่างจากรัศมี 300 เมตรเพื่อความปลอดภัย


ขอบคุณภาพ http://www.khaosod.co.th/

 กระสุนปืนดังกล่าวมีชาวบ้านที่ลงงมกุ้งในคลองตาเมี่ยในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที และพบลูกปืนดังกล่าวจำนวน 3 ลูก แต่ชาวบ้านนำขึ้นมาได้เพียง 1 ลูก และนำมาให้ตนดูว่าใช่ระเบิดหรือไม่  ตนเห็นถึงกับผงะเพราะเห็นว่าเป็นระเบิดแน่นอนจึงนำมาไว้ในที่โล่งแจ้งบนถนนทางเข้าหมู่บ้าน และแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ


ขอบคุณภาพจาก:  http://www.dailynews.co.th

 ระเบิดพบที่สันนิษฐานว่าเป็นปืนต่อสู้รถถัง (กปถ 67) มีรัศมีทำลายล้าง 300 เมตร สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างปี พ.ศ.2482-2488 ฝ่ายพันธมิตรได้ทิ้งลูกระเบิดลงมาทางเครื่องบินเพื่อขับไล่ทหารญี่ปุ่นที่มาอยู่บริเวณหน้าวัดเจริญสุขาราม และประตูน้ำบางนกแขวก ซึ่งอยู่ห่างจากที่พบระเบิดครั้งนี้ประมาณ 300 เมตร แต่ระเบิดไม่ทำงาน หลังสิ้นสุดสงคราม เจ้าหน้าที่บ้านเมืองได้มาทำการเก็บกู้ลูกระเบิดพบลูกปืนใหญ่หลายลูก และได้มอบให้ทางวัดเจริญสุขาราม ดูแลเก็บไว้ ทางวัดจึงได้ตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวได้ชมและศึกษากัน 

วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

โครงการดี ๆ สำหรับผู้พิการ ทั่วประเทศ


มีข่าวดีมาแจ้งข่าวให้กับผู้พิการทั่วประเทศ สมัคร โครงการยกย่องเกียรติคุณคนพิการดีเด่นในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เพื่อรับรางวัล "หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร" รางวัลสร้างเสริมคนดีมีคุณธรรม ประจำปี พ.ศ. 2557


 มูลนิธิอนุสรณ์หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2535 ปัจจุบัน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงเป็นประธานกิตติมศักดิ์มูลนิธิฯ โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ การจัดกิจกรรมเพื่อเผยแพร่เกียรติคุณ หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ปูชนียบุคคลระดับโลก และมอบรางวัล “หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร” รางวัลสร้างเสริมคนดีมีคุณธรรม แก่บุคคลดีเด่นในสาขาอาชีพต่างๆ ทั่วประเทศที่สมควรได้รับการยกย่อง เพื่อเป็นตัวอย่างและแบบฉบับที่ดีแก่อนุชนรุ่นหลังสืบไป  ในปี พ.ศ. 2557 มูลนิธิอนุสรณ์หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร จึงเห็นสมควรให้มีการคัดเลือกคนพิการ ดีเด่นในการพัฒนาคุณภาพชีวิตเพื่อรับรางวัล “หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร” ในงาน “วันหม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร” 
งานสร้างเสริมคนดีมีคุณธรรม ครั้งที่ 30 วันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2557 ณ หอประชุมกรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์สัมพันธ์ ถนนพระราม 6 กรุงเทพฯ โดยได้กราบทูลเชิญพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จทรงเป็นประธานในงานเช่นทุกปีที่ผ่านมา รายละเอียดตามเอกสารแนบ หรือที่เว็บไซต์ http://www.princessngarmchit.org/foundation/index.php

ผู้พิการท่านใดสนใจเข้าร่วมโครงการดังกล่าว สามารถขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 

สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ
สถานที่ตั้ง: 
อาคาร 60 ปี กรมประชาสงเคราะห์ 255 ถนนราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400


เบอร์โทรศัพท์: 
02-354-3388 หรือ call center 02-3545501
เบอร์โทรสาร: 
02-354-3899
อีเมล์: